เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ความคาดหวังของสังคมที่มีต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่
ในการเข้ามาแก้ไขปัญหาการศึกษาหลายประเด็น
เช่น
การเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวในแต่ละระดับให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายสำหรับจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
กองทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กยากจนและด้อยโอกาส
ปัญหาขาดแคลนครู
การปรับปรุงระบบบุคลากร
การถ่ายโอนสถานศึกษาให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
รวมถึงการแยกกระทรวงใหม่
ฯลฯ
สิ่งที่กล่าวมาล้วนเป็นเรื่องที่ท้าทายการทำงานของผู้ที่จะเข้ามาบริหารกระทรวงศึกษาธิการไม่น้อย
เนื่องจากเป็นประเด็นที่สังคมอยากเห็นผลที่เป็นรูปธรรมมาตลอด
7
ปีของการปฏิรูปการศึกษา
รวมถึงหากเทียบเคียงระหว่างความจำกัดด้านเวลาซึ่งรัฐบาลชุดนี้จะมีอายุเพียง
1
ปี
กับปัญหาเร่งด่วนที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ความจำกัดด้านเวลาเป็นปัจจัยที่ทำให้ต้องเลือกที่จะวางแผน
จัดระบบ
กำหนดแนวทางที่จะเป็นยุทธศาสตร์อันเป็นหัวใจสำคัญต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาของไทย
เสนอว่า
งานหลักสำคัญที่จำเป็นต้องแก้ไขคือ
ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น
รวมถึงการวางระบบกลไกในการพัฒนาระบบการศึกษา
เพื่อส่งต่องานแก่รัฐบาลชุดใหม่ให้สามารถพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวหน้าตามแนวทางปฏิรูปที่เคยได้กำหนดไว้
ดังนี้
การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าระยะสั้น
อันเนื่องมาจากความผิดพลาดในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา
ซึ่งส่งผลต่อผู้เรียนและกระทบต่อความเชื่อมั่นของระบบการศึกษา
ไม่ว่าจะเป็น
ปัญหาระบบแอดมิชชั่น
การถ่ายโอนโรงเรียนแก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผ่านการประเมินแล้ว
ฯลฯ
ควรประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อทำความเข้าใจไม่ว่าจะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่หรือตัวผู้เรียนเอง
เพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อระบบข้อมูลและการบริหารจัดการ
ตลอดจนต้องดำเนินงานเชิงรุกเพื่อป้องกันความสับสนในช่วงปรับเปลี่ยนที่ผ่านมา
การวางกลไกเพื่อปฏิรูปการศึกษาให้สำเร็จ
ควรเป็นแนวทางที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง
ซึ่งจะเป็นกลไกที่ผลักดันให้งานด้านอื่น
ๆ
ได้รับการพัฒนา
และรัฐบาลชุดต่อไปสามารถรับช่วงต่อเพื่อพัฒนาการศึกษาให้ก้าวไปข้างหน้าได้
อาทิ
ทบทวนนโยบายอุดหนุนการศึกษาเพื่อความเป็นธรรม
โดยการให้น้ำหนักการอุดหนุนแตกต่างกันตามต้นทุนการจัดการศึกษาในแต่ละกลุ่มคนโดยคำนึงปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย
สร้างกลไกการจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ
โดยนำเครื่องมือทางด้านเศรษฐศาสตร์
นโยบายสาธารณะ
และมาตรการทางภาษี
มาเป็นเครื่องมือในการจัดสรรงบประมาณเพื่อการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ
สร้างกลไกการแข่งขันในระบบการศึกษา
โดยอาศัยการแข่งขันบนพื้นฐานความร่วมมือกันของทุกฝ่าย
เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
และขยายความร่วมมือสู่นานาชาติ
รวมทั้งจัดอันดับสถาบันการศึกษาที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับเพื่อกระตุ้นให้เกิดบรรยากาศการแข่งขันมากขึ้น
กำหนดจุดยืนและนโยบายทางการศึกษาที่ชัดเจนต่อการเปิดเสรีทางการศึกษา
โดยปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายที่สนับสนุนการศึกษาไทย
รวมถึงการสร้างความสามารถในการแข่งขันให้สถาบันการศึกษา
เพื่อรองรับการเปิดเสรีการศึกษาได้เท่าทัน
แก้ปัญหาการขาดแคลนครูและพัฒนาคุณภาพครู
โดยการปฏิรูปกระบวนการผลิตและพัฒนาบุคลากรครูทั้งระบบ
ตลอดจนมีระบบการประเมินผลงานครู
เพื่อสร้างแรงจูงใจซึ่งตอบสนองความต้องการพื้นฐานของมนุษย์
เพื่อดึงดูดให้คนที่มีความสามารถอยากเป็นครูมากขึ้น
รักษาบุคลากรครูให้อยู่ในระบบ
และได้รับการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
กำหนดผู้รับผิดชอบและสร้างระบบตรวจสอบที่ชัดเจน
โดยเปิดโอกาสให้ประชาชน
และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถตรวจสอบการดำเนินการ
และยับยั้งการกระทำอันมิชอบของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐได้
เร่งออกกฎหมายที่เอื้อต่อการศึกษาตามอัธยาศัย
โดยจูงใจให้ทุกภาคส่วนในสังคม
ร่วมจัดการศึกษาตามความพร้อม
โดยเฉพาะภาคเอกชน
และรัฐควรสนับสนุนการจัดการศึกษาสำหรับกลุ่มคนวัยทำงานอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว
จัดการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาสังคม
เริ่มจากการวิจัยปัญหาคนและสังคมไทยอย่างมีหลักวิชาการที่น่าเชื่อถือ
เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับกำหนดเป้าหมายและรูปแบบของการจัดการศึกษาที่รองรับอนาคต
สิ่งสำคัญที่รัฐบาลเฉพาะกาลนี้ควรคำนึงถึงคือ
การกำหนดนโยบายและกลไกในการขับเคลื่อนควรยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ
และควรกำหนดแนวทางเพื่อส่งผ่านงานด้านการศึกษาแก่รัฐบาลชุดต่อไปได้
เพื่อไม่ให้เกิดการชะงักงันในการสานต่อยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนการศึกษาให้ก้าวไปข้างหน้า
ที่ผ่านมาเราคงได้เรียนรู้จากความผิดพลาดจำนวนมากที่ส่งผลให้ระบบการศึกษาไทยหยุดชะงักงัน
ดังนั้น
การกำหนดแนวทางในอนาคตจึงไม่ควรเดินซ้ำกับรอยเดิมที่ผ่านมา
แต่ควรเป็นการเรียนรู้จากความผิดพลาด
และต่อยอดเพื่อมุ่งพัฒนาระบบการศึกษาอย่างก้าวกระโดดให้เท่าทันสภาพการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น
|