การลงทุนในพันธบัตรกองทุนน้ำมันไม่เสี่ยงแต่ผลตอบแทนสูง
เพราะความเสี่ยงถูกโอนมาให้ผู้ใช้น้ำมันและรัฐแบกรับไว้ทั้งหมดแล้ว
ในวันที่
29
ก.ย.ที่ผ่านมา
กระทรวงพลังงานและสถาบันบริหารกองทุนพลังงานได้เปิดให้จองพันธบัตรน้ำมัน
เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ที่เกิดจากการตรึงราคาน้ำมัน
92,000
ล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา
โดยจำหน่ายพันธบัตรชุดแรก 26,400
ล้านบาท
ให้แก่นักลงทุนสถาบันร้อยละ 60
และประชาชนทั่วไปร้อยละ
40
ในราคาหน่วยละ
1,000
บาท ขั้นต่ำ
50,000
บาทต่อราย รูปแบบการจองคือ
ใครมาก่อนได้ก่อนและจะปิดการจองทันทีเมื่อครบกำหนด
สำหรับผลตอบแทนของพันธบัตรชุดแรกนี้ พันธบัตรอายุ
1
ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ
4.28
พันธบัตร 2
ปี ดอกเบี้ยร้อยละ
5.26
และพันธบัตร 3
ปี อยู่ที่ร้อยละ
5.87
สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ
0.75 1.50
ส่วนพันธบัตรชุดที่
2
จะออกจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ประมาณ 15,600
ล้านบาท
เหตุผลที่กองทุนน้ำมันต้องออกพันธบัตรเพื่อนำเงินมาชำระหนี้กองทุนน้ำมัน
เนื่องจากเงินกู้ระยะสั้นที่กองทุนน้ำมันกู้จากธนาคารพาณิชย์เพื่ออุดหนุนราคาน้ำมันนั้น
ถึงกำหนดเวลาชำระหนี้แล้ว
ประกอบกับการที่กองทุนน้ำมันยังไม่สามารถเก็บเงินเข้าสู่กองทุนฯเพื่อใช้หนี้ทั้งหมดได้ในทันที
เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกนั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม
กองทุนน้ำมันมีแผนการจัดเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันเพื่อชดใช้หนี้ทั้งหมดภายในเวลา 5
ปี
เหตุที่พันธบัตรน้ำมันต้องให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าดอกเบี้ยเงินออมนั้น
เพื่อจูงใจให้นักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไปเกิดความสนใจซื้อพันธบัตร
อีกประการหนึ่งคือแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น
ประกอบกับการออกพันธบัตรน้ำมันครั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกัน
ทำให้จำเป็นต้องให้อัตราผลตอบแทนที่สูง
ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งของการออกพันธบัตรน้ำมัน
คือการแทรกแซงทางนโยบายของรัฐบาล
เพราะพฤติกรรมของรัฐบาลชุดนี้มีแนวโน้มจะเข้าแทรกแซงนโยบายราคาน้ำมันอีก
หากราคาน้ำมันไม่ลดลง
รัฐบาลอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายไม่ให้กองทุนน้ำมันเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมัน
ในกรณีที่ราคาน้ำมันสูงมาก ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันไม่สามารถหารายได้มาชำระหนี้
และจะต้องออกพันธบัตรเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้ของกองทุนฯ ออกไปเรื่อย ๆ ผลที่เกิดขึ้นคือ
ผู้ใช้น้ำมันจะต้องจ่ายค่าน้ำมันสูงขึ้นในอนาคต เพื่อชำระดอกเบี้ยจากการออกพันธบัตร
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อพันธบัตรน้ำมัน
นับว่าพันธบัตรมีความน่าลงทุนมาก
และมีความเสี่ยงของการลงทุนค่อนข้างต่ำในเชิงพฤตินัย
แม้ในเชิงนิตินัยรัฐบาลจะไม่ได้ค้ำประกัน
แต่รัฐบาลยังเปิดช่องให้กองทุนน้ำมันสามารถกู้เงินจากรัฐบาลได้ในกรณีที่เงินขาดมือ
และหากกองทุนน้ำมันไม่สามารถชำระหนี้ได้ในอนาคต
รัฐบาลจะต้องเข้ารับชำระหนี้แทนอยู่ดี
เพราะถึงอย่างไรกองทุนน้ำมันยังคงเป็นหน่วยงานของรัฐ