เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันได้คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
หลังจากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่สังคมให้การยอมรับว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต
และทีมเศรษฐกิจที่มีความรู้ความสามารถ
อย่างไรก็ตาม
ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่มีระยะเวลาการทำงานเพียง
1
ปี
จึงควรจัดลำดับความสำคัญของงานโดยภารกิจสำคัญ
คือ
การฟื้นความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
การจัดทำงบประมาณปี
2550
การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลชุดก่อน
และการตัดสินใจว่าจะดำเนินนโยบายที่ต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดก่อนอย่างไร
ซึ่งมีความท้าทายที่ต้องเผชิญในหลายนโยบาย
อาทิ
นโยบายรัฐวิสาหกิจ
แม้ว่าการพิจารณาคดีการแปรรูป
ปตท.ยังอยู่ในการพิจารณาของศาล
แต่สิ่งที่ท้าทาย
คือ
หากศาลตัดสินให้การแปรรูป
ปตท.เป็นโมฆะ
รัฐบาลจะรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างไร
ทั้งการหาเงินมาซื้อหุ้นคืนจากภาคเอกชน
และผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
และสิ่งที่ต้องคิดต่อไป
คือ
แนวทางการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจควรจะเป็นอย่างไร
เพื่อให้รัฐวิสาหกิจมีเงินลงทุนเพียงพอ
มีการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
และยังสามารถจัดบริการสาธารณูปโภคได้ในราคาที่เป็นธรรม
นโยบายการค้าระหว่างประเทศ
สิ่งที่ท้าทาย
คือ
รัฐบาลจะดำเนินการเกี่ยวกับการเจรจาการค้าเสรีอย่างไรต่อไป
โดยเฉพาะข้อตกลงการค้าเสรีกับญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่ได้ข้อสรุป
การยกเลิกหรือชะลอการเจรจาออกไปอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของต่างประเทศที่มีต่อประเทศไทย
อันเนื่องจากความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย
แต่หากดำเนินการต่อไปรัฐบาลจะถูกแรงกดดันจากภาคประชาชนอย่างรุนแรง
ประการสำคัญคือ
การกำหนดกติกาและกระบวนการเจรจาสำหรับการเจรจาต่อไปในอนาคตควรเป็นอย่างไร
นโยบายธุรกิจค้าปลีก
รัฐบาลจะจัดการปัญหาห้างค้าปลีกข้ามชาติขนาดยักษ์ที่เข้าไปจัดตั้งในเขตชุมชนอย่างไร
เพราะได้มีการลงทุนและเปิดกิจการไปเป็นจำนวนมากแล้ว
หากรัฐบาลให้ยกเลิกการดำเนินการจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนและความเชื่อมั่นของนักลงทุน
หากจำกัดไม่ให้มีการลงทุนอีกจะเกิดความไม่เป็นธรรมระหว่างนักลงทุนรายใหม่กับรายเดิม
และทำให้เกิดการผูกขาดของกิจการเดิมที่มีอยู่
แต่หากรัฐบาลกำหนดให้สามารถจัดตั้งกิจการได้ต่อไป
รัฐบาลจะแก้ปัญหาของผู้ค้าปลีกรายย่อยได้อย่างไร
นโยบายการถือหุ้นของต่างชาติ
หากศาลตัดสินว่าบริษัทกุหลาบแก้วเป็นนอมีนีของเทมาเส็กจริง
จะเกิดคำถามว่า
รัฐบาลจะดำเนินการกับบริษัทอื่น
ๆ
ด้วยหรือไม่
เพราะมีความเชื่อกันว่านักลงทุนต่างชาติจำนวนมากใช้นอมินีเพื่อเข้ามาถือหุ้นในประเทศไทย
หากรัฐบาลไม่ดำเนินตรวจสอบบริษัทอื่นอาจจะเกิดข้อครหาว่าเลือกปฏิบัติ
แต่หากดำเนินคดีกับบริษัทอื่น
ๆ ด้วย
อาจทำให้เกิดการย้ายเงินลงทุนจำนวนมากออกจากประเทศไทย
ความท้าทายจึงอยู่ที่ว่า
ทีมเศรษฐกิจจะดำเนินการเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างไร
นอกจากนี้
รัฐบาลยังคงต้องเผชิญความท้าทายในนโยบายอื่นๆ
อีก เช่น
การจัดการปัญหาธรรมาภิบาลในภาคธุรกิจ
ปัญหากลไกการคุ้มครองผู้บริโภค
การคุ้มครองแรงงาน
และการจัดระบบคุ้มครองทางสังคม
ปัญหาการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
เป็นต้น
รัฐบาลใหม่ประกาศนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นเศรษฐกิจคุณธรรม
แต่จะต้องเผชิญปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายใต้โครงสร้างเศรษฐกิจแบบเดิม
ซึ่งมีความเสี่ยงจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ความท้าทายจึงอยู่ที่ว่า
รัฐบาลจะรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายได้อย่างไร
โดยที่ไม่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเสียหาย
|