เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
วินาศกรรมกลางกรุงลอนดอน
ไม่น่าห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจกลับน่าเป็นห่วงมากกว่า
แม้เหตุการณ์วินาศกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ
ได้สร้างความตกตะลึงแก่โลกมิใช่น้อย แต่สำหรับประเทศไทย
รัฐบาลได้ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบในด้านความปลอดภัย
เนื่องจากได้มีมาตรการป้องกันความปลอดภัยที่เข้มงวด และมีการเฝ้าระวังอยู่เป็นระยะ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากกว่า
คือ การบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล
ผมยังไม่พบว่ารัฐบาลได้ทบทวนนโยบายและเตรียมการป้องกันผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเกิดจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ดังเช่นวินาศกรรมที่เกิดขึ้น
หรือราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ในทางตรงกันข้าม รัฐบาลยังส่งสัญญาณผิด ๆ
ว่าเศรษฐกิจยังไปได้สวย รวมทั้งยังดำเนินนโยบายที่สุ่มเสี่ยงอย่างมาก
การที่รัฐบาลยังคงยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยยังสามารถเติบโตได้ดีนั้น
ขัดแย้งกับปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะวินาศกรรมในประเทศอังกฤษที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกยิ่งชะลอตัวลง
มาตรการกระตุ้นการส่งออกและการท่องเที่ยว ที่รัฐบาลหวังจะใช้เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง
จะต้องประสบกับความยากลำบากมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น การส่งสัญญาณที่สวนทางกับความเป็นจริง
ทำให้นักธุรกิจและประชาชนวางแผนการดำเนินธุรกิจและการใช้จ่ายเงินในอนาคต
ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่แท้จริง
ส่งผลทำให้ธุรกิจประสบภาวะขาดทุนหรือกู้เงินมาลงทุนมากเกินไป
และทำให้ประชาชนใช้จ่ายมากเกินกว่ารายได้ในอนาคต
ภาคธุรกิจและประชาชนจะเป็นหนี้มากขึ้น และมีความเสี่ยงที่หนี้เสียจะเพิ่มมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้
การที่รัฐบาลเร่งรีบผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ หรือเมกะโปรเจกต์
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ซึ่งในประเด็นนี้ ผมได้ทำบทบาทฝ่ายค้าน
โดยอภิปรายเตือนรัฐบาลด้วยหลักฐานทางวิชาการและด้วยความหวังดีต่อประเทศชาติไปแล้ว
รวมทั้งนักวิชาการจำนวนมากได้ออกมาตักเตือนรัฐบาลว่า
การลงทุนในโครงการดังกล่าวมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับอันตราย
แต่กระนั้น รัฐบาลยังไม่มีท่าทีที่จะชะลอการลงทุนในโครงการดังกล่าว
ดังนั้น
หากรัฐบาลไม่คิดทบทวนการบริหารเศรษฐกิจใหม่แล้ว
ผมคิดว่านโยบายของรัฐบาลเองที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและทำให้ประชาชนจะได้รับความเดือดร้อน
ไม่ใช่ผลจากวินาศกรรมแต่อย่างใด
|