เรียน
มิตรสหายที่เคารพรัก
เมื่อวันพุธที่
6
เมษายนที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีได้เปิดทำเนียบเพื่อรับฟังเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกเก็บเงินของกลุ่มมาเฟีย
เป็นการสานต่อนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพลให้หมดสิ้น
โดยจะนำกฎหมายทุกฉบับเข้าจัดการอย่างเด็ดขาด
เช่น
กฎหมายยึดทรัพย์สิน
พร้อมทั้งรวบรวมปัญหาที่ได้รับจากประชาชนมาแยกแยะ
เพื่อออกมาตรการในการจัดการกับผู้มีอิทธิพลต่อไป
และเริ่มมีการเปิดรับฟังความเดือดร้อนของประชาชน
ผมถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี
เพราะรัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาที่ตรงจุด
เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม
ในมุมมองที่ผมอยากเสนอแนะเพิ่มเติม
คือ
รัฐบาลควรคิดมาตรการในการคุ้มครองประชาชนผู้เปิดเผยข้อมูลผู้มีอิทธิพลให้กับฝ่ายรัฐบาลด้วย
เพราะประชาชนเหล่านี้มีโอกาสถูกคุกคามและถูกทำร้ายจากผู้มีอิทธิพลได้ตลอดเวลา
จึงอยากกระตุ้นให้รัฐเร่งคิดมาตรการเบื้องต้นในการคุ้มครอง
อาทิ
จัดสรรกำลังตำรวจคุ้มครองประชาชนแต่ละพื้นที่อย่างเจาะจง
ระหว่างช่วงเวลาที่ยังไม่สามารถจับกุมผู้มีอิทธิพลมาดำเนินคดีได้
ตำรวจต้องทำงานหนักในการคุ้มครอง
ให้ความมั่นใจ
และความปลอดภัยแก่ประชาชนที่มาลงทะเบียนร้องเรียนและให้ข้อมูลกับฝ่ายรัฐบาล
ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนประมาณ
2,000
คน
โดยจัดกำลังตำรวจเข้าดูแลในแต่ละพื้นที่อย่างเจาะจง
มีการหมุนเวียนเวรยามตลอด
24
ชม.
จัดทำสายด่วนเพื่อให้ประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา
รวมกลุ่มในชุมชนคุ้มครองตนเอง
ไม่เพียง
ประชาชนจะรอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐเท่านั้น
ควรส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน
โดยรวมตัวเพื่อสอดส่องดูแลกันและกันในพื้นที่
เมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติ
ต้องเร่งแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับตำรวจได้ทราบเพื่อเข้าไปจัดการในพื้นที่
เพราะในบางครั้งกลุ่มมาเฟียจะคุกคามในช่วงเวลาที่ตำรวจไม่อยู่
ชุมชนจึงต้องช่วยเหลือกันและกัน
เป็นเหมือนกับเวรยามในพื้นที่ในการดูแลความเรียบร้อย
สุดท้ายที่ผมขอฝากไว้
คือ การร่วมมือ
ร่วมใจของทุกฝ่ายในการช่วยกันปราบปรามผู้มีอิทธิพลให้หมดไปอย่างรวดเร็ว
|