เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
รถไฟฟ้า 10
สายห่างไกลความจริง เพราะไม่มีความชัดเจนเรื่องงบประมาณ และรูปแบบการก่อสร้าง
นายกรัฐมนตรีประกาศจะให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาร่วมประมูลประกวดราคาโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้า
10 สายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยกำหนดวงเงินก่อสร้างประมาณ 5.5 แสนล้านบาท
ทั้งนี้นายกฯ ได้กล่าวผ่านรายการ นายกฯทักษิณคุยกับประชาชน
ถึงแนวคิดที่จะเอายางพาราแลกรถไฟฟ้า และในวันที่ 14 ธ.ค. 2548
จะเชิญทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยมาฟังแนวทางที่รัฐบาลจะพัฒนาประเทศให้ทันสมัย
โดยให้รัฐมนตรีและผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจมาร่วมพูดคุยเพื่อตอบคำถามเป็นเรื่อง ๆ
จากนั้นจะพาบริษัทและตัวแทนของประเทศเข้ามาฟังรายละเอียดอีกครั้ง
และจะเสนอให้บริษัทต่างชาติยื่นข้อเสนอต่าง ๆ เช่น เรื่องรถไฟฟ้า 7 เส้นทาง 9
เส้นทาง หรือ 10 เส้นทาง
จากแนวทางดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า
นโยบายก่อสร้างรถไฟฟ้าที่รัฐบาลประกาศตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งนั้น
ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องใด ๆ เลย
ความไม่ชัดเจนในเรื่องงบประมาณการก่อสร้าง
การที่รัฐบาลให้แนวทางการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้า
โดยการกรีดยางเพื่อแลกเปลี่ยนกับรถไฟฟ้า ซึ่งใช้เวลา 20
ปีหลังจากที่รถไฟฟ้าสร้างเสร็จ แนวคิดนี้แสดงว่ารัฐบาลไม่มีงบประมาณก่อสร้างจริง ๆ
จึงต้องใช้วิธีการแลกเปลี่ยนสินค้า และเงิน 5.5 แสนล้านบาท เป็นจำนวนเงินที่มาก
หากจะใช้เพียงการแลกสินค้าคงไม่เพียงพออย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นที่ผ่านมาประเทศมหาอำนาจ 5 ชาติ คือ อังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี
และญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีรถไฟฟ้าได้ปฏิเสธว่า
วิธีการนี้ไม่น่าเป็นไปได้
สิ่งที่น่าคิด คือ หากต่างประเทศไม่ยอมใช้วิธีการแลกเปลี่ยนสินค้า
รัฐบาลจะนำงบประมาณมาจากไหน และหากต้องการแลกยางกับรถไฟฟ้า
ประเทศที่นำเข้ายางจากไทยมากที่สุดคือจีน
แต่คำถามคือประเทศจีนจะมีเทคโนโลยีรถไฟฟ้าดีที่สุดได้อย่างไร
ในเมื่อจีนเพิ่งจะมีรถไฟฟ้าก่อนหน้าประเทศไทยไม่กี่ปีเท่านั้น
ความไม่ชัดเจนในรูปแบบการก่อสร้าง การที่รัฐบาลประกาศว่าในวันที่ 14 ธ.ค.2548
จะมีการเชิญทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยมาเพื่อปรึกษาหารือนั้น
สะท้อนว่ารัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องรูปแบบการก่อสร้างรถไฟฟ้า
เพราะยังต้องใช้เวลาหาข้อสรุป
โดยต้องดูข้อเสนอว่าในแต่ละเส้นทางการก่อสร้างจะทำในรูปแบบใด เช่น ควรจะเป็นโมโนเรล
(Monorail) ไลท์เรล (Light Rail) เฮฟวี่เรล (Heavy Rail) หรือควรจะเป็นบีอาร์ที (Bus
Rapid Transport - BRT)
สิ่งที่น่าคิด คือ
รัฐบาลจะใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสินใจว่าควรจะก่อสร้างรถไฟฟ้ารูปแบบใด
และการเลือกลงทุนตามข้อเสนอของต่างชาติจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่และคุ้มค่าที่สุดหรือไม่
ในเมื่อประเทศไทยไม่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีของต่างชาติ
และการตัดสินใจจะมีความโปร่งใสหรือไม่
นอกจากนี้เมื่อรูปแบบการก่อสร้างยังไม่ชัดเจนเลย
โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการและก่อสร้างเสร็จได้เมื่อไร
ความไม่ชัดเจนดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจในโครงการว่าจะสำเร็จหรือไม่
และหากต่างประเทศไม่ยอมใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้ารัฐบาลจะทำอย่างไร
จะมีงบประมาณมาจากไหน อีกทั้งยังไม่ชัดเจนเลยว่ารูปแบบการก่อสร้างจะทำอย่างไร
แล้วประชาชนจะมีหวังที่จะได้ใช้รถไฟฟ้าเมื่อใด
|