Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์

บัญญัติ 10 ประการ ก่อนแม้แต่จะคิดขายหุ้น กฟผ.
Ten Steps to Do Preceding to Selling EGAT Shares in the Stock Market

 

7 พฤศจิกายน 2548

 

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก

แผนการของรัฐบาลในการแปรรูป กฟผ. เข้าตลาดหลักทรัพย์ กำลังเดินหน้าไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่าย ๆ แม้ว่ายังขาดการเตรียมพร้อมในด้านกฎกติกาและกลไกต่าง ๆ ในกิจการไฟฟ้าของประเทศก็ตาม

สิ่งที่ผมพยายามมาตลอดคือการเตือนรัฐบาลให้ใจเย็น ๆ ในการแปรรูป กฟผ. ขอให้พิจารณารายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ผมเห็นว่ายังพอมีความเป็นไปได้ ที่จะทำให้การปรับปรุงของ กฟผ.มีความสมบูรณ์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของหลักเกณฑ์ในการกระจายหุ้น กฟผ. สู่ภาคเอกชนและประชาชนทั่วประเทศนั้น ผมคิดว่ารัฐบาลควรมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนแน่นอนก่อนใน 10 ประการ ดังต่อไปนี้ครับ

1) รัฐควรเร่งออกกฎหมายกำกับกิจการไฟฟ้าและจัดตั้งองค์กรอิสระกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ที่กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมของประเทศ องค์กรอิสระนี้ทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการไฟฟ้าให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม

2) แยกกิจการผูกขาดออกจากกิจการที่มีการแข่งขัน โดยปรับโครงสร้างกิจการไฟฟ้าทั้งระบบ แยกแยะทรัพยสินและกิจการที่ผูกขาดออกจากกิจการที่สามารถให้มีการแข่งขันกันได้ กล่าวคือระบบส่งของ กฟผ. และระบบจำหน่ายของ กฟน. และ กฟภ. ควรให้รัฐเป็นเจ้าของและดำเนินการเอง ส่วนระบบผลิตและกิจการค้าปลีกควรเปิดให้แข่งขันอย่างเสรี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและลดการลงทุนของภาครัฐ ส่วนกิจการการผลิตบางส่วน ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ เขื่อน และอ่างเก็บน้ำ ควรแยกออกจาก กฟผ. เพราะมีทรัพย์สินที่เป็นของแผ่นดิน

3) ขจัดเงื่อนไขที่ทำให้ กฟผ.ผูกขาด ได้แก่ การได้รับสิทธิเพียงรายเดียวในการเช่าทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ จากกระทรวงการคลัง รวมทั้งยกเลิกเงื่อนไขที่ให้ กฟผ.ผลิตไฟฟ้าร้อยละ 50 ของความต้องการไฟฟ้าที่เกิดขึ้นใหม่ ควรปล่อยให้ผู้ที่ผลิตได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่าเป็นผู้ผลิต ซึ่งส่งผลให้ราคาถูกลงตามต้นทุนที่ต่ำลง

4) แตก กฟผ. ออกเป็นหลายบริษัท เพื่อให้เกิดการแข่งขันกันในระบบผลิตไฟฟ้ามากขึ้น

5) กำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการถือหุ้นไขว้ในธุรกิจไฟฟ้า เพื่อสร้างข้อจำกัดสำหรับกลุ่มการเมืองและกลุ่มธุรกิจในการครอบครองหุ้นของกิจการไฟฟ้า อันจะนำมาสู่การกำหนดนโยบายที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และป้องกันการร่วมมือกันของกิจการค้าปลีกไฟฟ้าในการกำหนดราคาที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค

6) ยกเลิกเกณฑ์การประกันผลตอบแทนการลงทุน (ROIC) เพื่อทำให้กิจการไฟฟ้าที่กระจายหุ้นให้เอกชนและประชาชนไปแล้ว ต้องพัฒนาประสิทธิภาพของตนเอง โดยรัฐไม่ต้องเข้าไปแทรกแซง

7) ยกเลิกเงื่อนไขที่ทำให้ กฟผ.ต้องรับซื้อก๊าซจาก ปตท.แต่เพียงรายเดียว เพื่อยกเลิกการผูกขาดของ ปตท.ที่มีต่อ กฟผ. ซึ่งจะทำให้ กฟผ.ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศ มีต้นทุนการซื้อเชื้อเพลิงที่ต่ำลง เพราะเป็นไปตามกลไกตลาด และทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้

8) สร้างหลักประกันความมั่นคงในระบบไฟฟ้า โดยให้ผู้ผลิตไฟฟ้าทุกรายตั้งสำรองไฟฟ้า เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า และทำให้เกิดความเป็นธรรมกับ กฟผ. ที่ต้องแบกภาระสำรองไฟเพียงหน่วยงานเดียว โดยกำหนดให้บริษัทเอกชนที่ผลิตไฟฟ้าทุกแห่งตั้งสำรองไฟฟ้าด้วย เช่นเดียวกับการที่ธนาคารกลางกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์มีเงินสดสำรอง

9) อนุญาตให้รัฐมีอำนาจเข้าแทรกแซงกิจการไฟฟ้า ในกรณีฉุกเฉินที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงทางไฟฟ้าของประเทศ รวมทั้งให้สิทธิรัฐในการซื้อคืนกิจการพลังงานจากเอกชนในราคาตลาด

10) จัดตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อดึงกำไรของกิจการไฟฟ้ามาลงทุนขยายโครงข่ายกิจการไฟฟ้าในพื้นที่ชนบทห่างไกล และจ่ายค่าไฟฟ้าสาธารณะ รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาด้านระบบไฟฟ้าของประเทศ

ผมอยากเห็นรัฐบาลชะลอการนำ กฟผ.เข้าตลาดหุ้น โดยพิจารณาเงื่อนไขอย่างรอบครอบ เพราะเรื่องแบบนี้ “ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม” ครับ