Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์



วอนรักษาการนายกฯ เร่งชี้แจงเหตุผลไปพม่า
Popularity driven state visit : Our caretaker PM visits Burma

 

สิงหาคม 2549

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก                                               

การเดินทางไปยังสหภาพพม่าของรักษาการนายกฯ และคณะ ในวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยรักษาการนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเครื่องบินถึงประเด็นการไปเยือนพม่าว่า ประเด็นการหารือจะครอบคลุมทุกเรื่อง สำหรับรูปแบบการเจรจาเป็นการเจรจาในระดับผู้นำ เพื่อปรึกษาหารือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ตามกำหนดการที่ผู้นำของไทยและพม่าได้หารือและวางแผนไว้ล่วงหน้า ตามโอกาสและเวลาที่ทั้งสองฝ่ายสะดวกร่วมกัน โดยจะหารือในประเด็นความร่วมมือที่ได้หารือกันไว้ให้มีความก้าวหน้า อาทิ การเกษตร พลังงาน รวมถึงมุ่งกระชับความสัมพันธ์ในเวทีระหว่างประเทศ 

หากพิจารณาจากประเด็นข้างต้น ผมพบข้อสังเกตเกี่ยวกับการชี้แจงเรื่องการเดินทางไปเยือนประเทศพม่าของรักษาการนายกฯ ผ่านกรมประชาสัมพันธ์ว่า เป็นการเดินทางตามแผนที่วางไว้ และเป็นประเด็นการพูดคุยแบบทั่วไป แต่เหตุใดจึงรีบเร่งเดินทาง

เห็นได้จากการที่รักษาการนายกฯ ได้เลื่อนการประชุมและรับประทานอาหารร่วมกับระดับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร็วขึ้นกว่าเดิม 1 ชั่วโมง รวมถึงมีรายงานข่าวว่า พล..สนธิ บุญยรัตนกลิน ต้องยกเลิกกำหนดการลงไปบัญชาการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเวลา 07.00 . ของวันที่ 2 .. เพราะต้องติดตาม พ...ทักษิณ เดินทางไปประเทศพม่าอย่างเร่งด่วน ตลอดจนการตรวจสอบของนักข่าวในวาระงานทำเนียบไม่พบกำหนดการเยือนพม่าแต่อย่างใด 

ความไม่สอดคล้องและความคลุมเครือในประเด็นของการเยือนพม่าครั้งนี้ ทำให้ผมเกิดความห่วงใยว่า การกระทำดังกล่าวอาจสร้างความคลางแคลงใจต่อหลายฝ่ายที่ได้รับทราบเรื่อง และอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตานานาชาติ อาทิ

เป็นการสร้างคำถามในใจคนไทยว่ารักษาการนายกฯ เดินทางไปพม่าเพื่อเหตุใด? ” การเดินทางอย่างกระทันหันดังกล่าว มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการไปเพื่อเจรจาผลประโยชน์ส่วนตัว โดยอาศัยอ้างบทบาทหน้าที่ และช่องว่างในช่วงก่อนเลือกตั้ง ที่กลไกการตรวจสอบยังไม่เกิดเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวใช่หรือไม่  ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเงินกู้จำนวน 4,000 ล้านบาทที่เคยอนุมัติให้กับรัฐบาลชุดที่แล้วก่อนมีการยึดอำนาจ หรืออาจไปเพื่อหารือเรื่องการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ที่แม่น้ำสาละวิน ซึ่งคนในรัฐบาลมีส่วนได้เสียกับโครงการดังกล่าว

เป็นการสร้างความแคลงใจแก่นานาชาติว่าประเทศไทยมีจุดยืนอย่างไรต่อประเทศพม่า?” การเดินทางไปเยือนพม่า โดยไม่มีการชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจน รวมถึงความคลุมเครือในเรื่องประเด็นการเจรจา อาจทำให้ไทยถูกตั้งคำถามจากนานาประเทศ ทั้งในกลุ่มอาเซียน และในเวทีสหประชาชาติว่า ไทยมีจุดยืนอย่างไรต่อพม่า เพราะขณะนี้กลุ่มประเทศอาเซียน และประเทศสมาชิกองค์กรสหประชาติ ต่างมีท่าทีที่ไม่พอใจการกระทำของรัฐบาลพม่า

ดังเห็นได้จากในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ร่วมกันประณามการกระทำของรัฐบาลพม่าที่ไม่ฟังเสียงเรียกร้อง และคำขอจากเพื่อนร่วมอาเซียนให้ปล่อยอองซาน ซูจี แม้แต่น้อย ตลอดจนการปฏิบัติตัวของพม่าที่ไม่ยอมทำตามคำร้องขอของสหประชาชาติในการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำให้มีการเสนอเรื่องของพม่าให้คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติถกกันอย่างตรงไปตรงมา

นอกจากนี้ การที่รักษาการนายกฯ ไปเยือนพม่าในฐานะผู้นำประเทศ โดยอ้างการเจรจาแบบทวิภาคี และพหุภาคี แต่กลับไม่มีในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องของนานาชาติในประเด็นข้างต้นนั้น อาจทำให้ประเทศต่าง ๆ สงสัยในท่าทีที่อาจขัดแย้งกับจุดยืนที่กระทรวงต่างประเทศของไทยได้เคยประกาศเกี่ยวกับท่าทีต่อพม่าว่า ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีในพม่า และต้องการให้ปัญหาในประเทศพม่าได้รับการแก้ไข 

และยังมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า การไปเยือนพม่าในช่วงเวลานี้ อาจกลายเป็นประเด็นที่ทำให้หลายประเทศทบทวนการสนับสนุนตัวแทนของประเทศไทยในการชิงเก้าอี้เลขาธิการองค์กรสหประชาติได้ด้วยหรือไม่ เพราะเข้าใจว่ารัฐบาลไทยหนุนหลังหรือเห็นด้วยกับการดำเนินงานภายในของพม่า

ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอให้รักษาการนายกฯ เร่งชี้แจงรายละเอียดในการไปเยือนพม่าในทุกประเด็น เพื่อสร้างความชัดเจนและตอบคำถามที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ และขอให้ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นอุทธาหรณ์แก่ทุกฝ่ายในการดำเนินงานด้วยความโปร่งใส มีความชัดเจนและคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งในระดับชาติและนานาชาติต่อไป  

    



-------------------------------