เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ในการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ
สภาผู้แทนราษฎร
เมื่อวันที่
6 ก.ค
ที่ผ่านมา
ได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่
ก.ล.ต.ร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท
ปิคนิค
คอร์ปอเรชั่น
จำกัด (มหาชน)
ว่าผู้บริหารของบริษัทดังกล่าวซึ่งเป็นน้องของ
รมช.พาณิชย์
ได้โยกย้ายบัญชีของบริษัทเข้าบัญชีส่วนตัว
และข้อหาปรับแต่งตัวเลขทางบัญชี
อันเป็นความผิดตาม
พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยได้เชิญเลขาธิการ
ปปง.
ผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ
และผู้แทนจาก
ก.ล.ต.
มาชี้แจง
ผู้แทน
ก.ล.ต
ชี้แจงว่า
ได้ตรวจสอบบัญชีของบริษัท
ปิคนิค
พบว่ามีการตบแต่งบัญชีและยักย้ายทรัพย์สินไปยังผู้บริหารจริง
ซึ่งถือว่าเป็นการปั่นหุ้นที่ผิดตามกฎหมาย
(ซึ่งมี
3 กรณี
คือ
การทำข้อมูลเท็จ
การใช้ข้อมูลภายใน
และการซื้อขายเพื่อสร้างราคา)
คือความผิดในกรณีให้ข้อมูลเท็จ
ด้านเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ชี้แจงว่าได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน
พบว่า
มีความผิดปกติเกี่ยวกับการขึ้นลงของราคาหุ้น
และความผิดปกติเกี่ยวกับการทำธุรกรรม
โดยเป็นการดำเนินการโดยบุคคลธรรมดาไม่เกิน
18 คน
นิติบุคคลไม่เกิน
20 แห่ง
แต่เปิดเผยชื่อไม่ได้
และไม่มีนักการเมืองอยู่ในกลุ่มนี้
อย่างไรก็ตาม
จากการชี้แจงของทั้ง
2
หน่วยงาน
ผมยังไม่เห็นความชัดเจนของคดีดังกล่าว
ในประเด็นที่ว่า
รมช.มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่
และใครควรเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบในการดำเนินคดีดังกล่าว
ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
หรือคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เพราะต่างฝ่ายต่างมีข้อมูลในการชี้ความผิด
แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดที่รับเป็นเจ้าภาพในการดำเนินคดีนี้
นอกจากนี้
ผมคิดว่ายังมีความเกี่ยวพันของนักการเมืองกับตลาดหุ้น
ที่ยังไม่ได้มีการตรวจสอบอีกมาก
ผมจึงได้เสนอให้
ก.ล.ต
ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับพฤติกรรมการปั่นหุ้นของนักการเมือง
รัฐมนตรี
ครอบครัวนักการเมือง
ตลอดจนคณะกรรมการบริหารพรรค
กลุ่มนายทุนที่บริจาคเงินเข้าพรรค
ที่ถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมด
โดยศึกษาย้อนหลังอย่างน้อย
2 ปี
ว่ามีหุ้นที่มีความผิดปกติ
หรือเข้าข่ายน่าสงสัยหรือไม่
เพื่อให้สาธารณะได้รับรู้ข้อมูล
มีส่วนในการตรวจสอบความผิดปกติที่จะเกิดขึ้น
ดีกว่าวัวหายแล้วล้อมคอก
|