Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์

 

ปัญหาแอดมิชชั่น กระจกสะท้อนความบกพร่องของรัฐบาล
Problems in Admission System : A  Defection of The Government’s Deficiency


 

7  พฤษภาคม 2549

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก 

จากปัญหาแอดมิชชั่นเป็นกระแสที่ก่อเกิดความปั่นป่วนแก่เยาวชนและสังคมไทยมากในขณะนี้ มีปัญหามาตั้งแต่การก่อร่างแนวคิดนี้ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น

การปรับเปลี่ยนระบบนี้ เป็นการคิดกันแต่ระดับผู้บริหาร ไม่ฟังความคิดคนอื่น  ไม่มีการทำวิจัย  ไม่มีการรับฟังความคิดเห็น ก่อนนำไปใช้จริง ทั้งที่มีคนหลายกลุ่มเสนอให้ทำวิจัย ประชาพิจารณา

การปรับระบบเร็ว ไม่มีการทดสอบระบบที่น่าเชื่อถือ  เห็นได้จากระบบคะแนนในปี 2548 ต่างจากปี 2549 ซึ่งเป็นเด็กในกลุ่มเดียวกัน ทำให้เด็กไม่ได้เตรียมตัว และสับสน ทั้งที่จริงควรมีการทดสอบระบบจนแน่ใจว่าจะใช้ได้ดี ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 2-3 ปี อีกทั้งต้องมีการทิ้งระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมและลดความผิดพลาดอันเกิดจากระบบที่ยังไม่สมบูรณ์

การละเลยปัญหาการปล่อยเกรด ซึ่งขณะนี้มาตรฐานการศึกษาของแต่ละโรงเรียนยังไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน บางโรงเรียนอาจปล่อยเกรดเพื่อให้เด็กสอบเข้าได้มาก ซึ่งเป็นการไม่ยุติธรรม สำหรับเด็กที่อยู่ในโรงเรียนที่มีการคิดผลการเรียนที่เข้มงวด ที่จะดูเพียงผลการเรียน โดยไม่มีการ
ถ่วงน้ำหนัก

การให้ทำเครื่องหมายกากบาทเป็นจุดก่อเกิดปัญหาหรือไม่ ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เคยชี้แจงเกี่ยวกับ การใช้กากบาทว่า มีข้อดีกว่า การใช้การฝนวงกลมด้วยคาร์บอนอย่างไร ทั้งที่ระบบการฝนด้วนคาร์บอนมีการใช้กันทั่วโลก และพัฒนามากว่า 20 ปี จนมี ความแม่นตรงที่ 98- 99% ซึ่งหากมีการผิดพลาดจะสามารถเข้าไปแก้ไขได้ง่าย แต่การทำเครื่องหมายกากบาท กลับไม่มีการทดสอบ ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดมาก เช่น ระบบอาจไม่อ่านที่กรอก หรืออ่านลายมือที่กากบาทไม่ได้

การจัดทำระเบียนการจัดสอบมีปัญหา ตั้งแต่การรับสมัคร การประกาศห้องสอบ การเข้าห้องสอบ การประกาศผลสอบ ซึ่งล้วนอิงกับระบบอินเทอร์เนต ทำให้เด็กเข้าถึงได้ยาก เช่น การประกาศห้องสอบ ทางอินเทอร์เนต เด็กเข้าถึงยากและมีความสับสนเรื่องห้องสอบ ทำให้เข้าสอบซึ่งอาจมีการสวมชื่อแทนได้ การประกาศผลสอบ เด็กรู้ผลสอบได้ยาก โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัด ที่ต้องดูผ่านอินเทอร์เนต ทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูง เสียเวลาและมีค่าเสียโอกาสทั้งเด็กและผู้ปกครอง 

การขาดการเตรียมผู้คุมสอบให้พร้อมในการคุมสอบและแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น วิธีจัดที่นั่งสอบ ที่เด็กนั่งใกล้กันแล้วมีโอกาสเห็น
ข้อสอบ ไม่มีการบันทึกว่าเด็กแต่ละคนสอบที่สถานศึกษาไหน ห้องสอบใด ใช้แต่เพียงรหัสประจำตัวประชาชน และรหัสสอบ เมื่อมีการผิดพลาด จะกลับไปตรวจสอบให้ถูกต้องได้อย่างไร จะใช้วิธีการถ่ายเอกสารจากเด็กที่มีข้อสอบให้เด็กไม่มีข้อสอบหรือไม่ ซึ่งจะเกิดปัญหาหรือไม่

การประมวลผลมีปัญหา ระบบการส่งข้อสอบ และระบบคอมพิวเตอร์ไม่แม่นตรง ก่อจุดบกพร่องมาก ส่งผลให้เลื่อนประกาศผลสอบไปถึง 3 ครั้ง รวมถึงการคำนวณคะแนนที่ผิดพลาด เด็กบางคนไม่มีคะแนน เด็กบางคนคะแนนสูงกว่าปกติ เช่น คะแนนเต็ม 100 ได้คะแนน 500 กว่าคะแนน หรือ 700 กว่าคะแนน ทำให้เด็กและผู้ปกครองต้องรอ เสียกำลังใจ เสียทรัพย์ ไม่มั่นใจระบบแอดมิชชั่น

การตรวจข้อสอบอัตนัยไม่ได้มาตรฐาน มีปัญหาเกือบทุกวิชา และมีปัญหามาก โดยเฉพาะวิชาอัตนัยภาษาไทย วิชาภาษาไทยมีคณาจารย์ให้นักศึกษมหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นผู้ตรวจ และกลายเป็นประเด็นปัญหา

ทั้งนี้ในหลักการของระบบแอดมิชชั่นนั้นผมเห็นว่า เป็นหลักการที่ดี โดยที่ผ่านมาพบว่า “ผลการเรียนในมหาวิทยาลัย“ สัมพันธ์กับ “ผลการเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมปลาย” คือ หากเด็กที่เรียนมัธยมศึกษาตอนปลายได้ดี จะทำให้ เรียนในมหาวิทยาลัยดีด้วย อีกทั้งอาจช่วยแก้ปัญหาการกวดวิชา

แต่ปัญหาดังกล่าวถือเป็นวิกฤติการบริหารนโยบายทางด้านการศึกษาของพรรคไทยรักไทย ที่มาจากพฤติกรรมการบริหารงานในลักษณะของพรรคไทยรักไทย ที่ไม่รับฟังใคร แม้แต่จะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งผู้ปกครอง และนักเรียน นอกจากนี้ ยังเป็นผลพวงของการคิดเร็ว ทำเร็ว จนนำไปสู่ความผิดพลาด ไม่มีการทดสอบระบบอย่างรอบคอบ จนทำให้เกิดปัญหาคะแนนมั่ว และความไม่เป็นธรรมในการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา อีกทั้งยังเห็นว่าเป็นการกระทำที่ขาดมาตรฐานความโปร่งใสและขาดความรับผิดชอบ

ผมจึงอยากเรียกร้องให้ทางพรรคไทยรักไทยคิดให้รอบคอบว่า ผลการกระทำในครั้งนี้ สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก และควรแสดงความรับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรจะคิดให้รอบคอบบนพื้นฐานทางวิชาการมากกว่าการเดา



-------------------------------