เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
จากปัญหาแอดมิชชั่นเป็นกระแสที่ก่อเกิดความปั่นป่วนแก่เยาวชนและสังคมไทยมากในขณะนี้
มีปัญหามาตั้งแต่การก่อร่างแนวคิดนี้ในประเทศไทย
ไม่ว่าจะเป็น
การปรับเปลี่ยนระบบนี้
เป็นการคิดกันแต่ระดับผู้บริหาร
ไม่ฟังความคิดคนอื่น
ไม่มีการทำวิจัย
ไม่มีการรับฟังความคิดเห็น
ก่อนนำไปใช้จริง
ทั้งที่มีคนหลายกลุ่มเสนอให้ทำวิจัย
ประชาพิจารณา
การปรับระบบเร็ว
ไม่มีการทดสอบระบบที่น่าเชื่อถือ
เห็นได้จากระบบคะแนนในปี
2548
ต่างจากปี
2549
ซึ่งเป็นเด็กในกลุ่มเดียวกัน
ทำให้เด็กไม่ได้เตรียมตัว
และสับสน
ทั้งที่จริงควรมีการทดสอบระบบจนแน่ใจว่าจะใช้ได้ดี
ซึ่งอาจต้องใช้เวลา
2-3
ปี
อีกทั้งต้องมีการทิ้งระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านระบบ
เพื่อเตรียมความพร้อมและลดความผิดพลาดอันเกิดจากระบบที่ยังไม่สมบูรณ์
การละเลยปัญหาการปล่อยเกรด
ซึ่งขณะนี้มาตรฐานการศึกษาของแต่ละโรงเรียนยังไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
บางโรงเรียนอาจปล่อยเกรดเพื่อให้เด็กสอบเข้าได้มาก
ซึ่งเป็นการไม่ยุติธรรม
สำหรับเด็กที่อยู่ในโรงเรียนที่มีการคิดผลการเรียนที่เข้มงวด
ที่จะดูเพียงผลการเรียน
โดยไม่มีการ
ถ่วงน้ำหนัก
การให้ทำเครื่องหมายกากบาทเป็นจุดก่อเกิดปัญหาหรือไม่
ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เคยชี้แจงเกี่ยวกับ
การใช้กากบาทว่า
มีข้อดีกว่า
การใช้การฝนวงกลมด้วยคาร์บอนอย่างไร
ทั้งที่ระบบการฝนด้วนคาร์บอนมีการใช้กันทั่วโลก
และพัฒนามากว่า
20
ปี จนมี
ความแม่นตรงที่
98- 99%
ซึ่งหากมีการผิดพลาดจะสามารถเข้าไปแก้ไขได้ง่าย
แต่การทำเครื่องหมายกากบาท
กลับไม่มีการทดสอบ
ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดมาก
เช่น
ระบบอาจไม่อ่านที่กรอก
หรืออ่านลายมือที่กากบาทไม่ได้
การจัดทำระเบียนการจัดสอบมีปัญหา
ตั้งแต่การรับสมัคร
การประกาศห้องสอบ
การเข้าห้องสอบ
การประกาศผลสอบ
ซึ่งล้วนอิงกับระบบอินเทอร์เนต
ทำให้เด็กเข้าถึงได้ยาก
เช่น
การประกาศห้องสอบ
ทางอินเทอร์เนต
เด็กเข้าถึงยากและมีความสับสนเรื่องห้องสอบ
ทำให้เข้าสอบซึ่งอาจมีการสวมชื่อแทนได้
การประกาศผลสอบ
เด็กรู้ผลสอบได้ยาก
โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัด
ที่ต้องดูผ่านอินเทอร์เนต
ทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูง
เสียเวลาและมีค่าเสียโอกาสทั้งเด็กและผู้ปกครอง
การขาดการเตรียมผู้คุมสอบให้พร้อมในการคุมสอบและแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
เช่น
วิธีจัดที่นั่งสอบ
ที่เด็กนั่งใกล้กันแล้วมีโอกาสเห็น
ข้อสอบ
ไม่มีการบันทึกว่าเด็กแต่ละคนสอบที่สถานศึกษาไหน
ห้องสอบใด
ใช้แต่เพียงรหัสประจำตัวประชาชน
และรหัสสอบ
เมื่อมีการผิดพลาด
จะกลับไปตรวจสอบให้ถูกต้องได้อย่างไร
จะใช้วิธีการถ่ายเอกสารจากเด็กที่มีข้อสอบให้เด็กไม่มีข้อสอบหรือไม่
ซึ่งจะเกิดปัญหาหรือไม่
การประมวลผลมีปัญหา
ระบบการส่งข้อสอบ
และระบบคอมพิวเตอร์ไม่แม่นตรง
ก่อจุดบกพร่องมาก
ส่งผลให้เลื่อนประกาศผลสอบไปถึง
3
ครั้ง
รวมถึงการคำนวณคะแนนที่ผิดพลาด
เด็กบางคนไม่มีคะแนน
เด็กบางคนคะแนนสูงกว่าปกติ
เช่น
คะแนนเต็ม
100
ได้คะแนน
500
กว่าคะแนน
หรือ
700
กว่าคะแนน
ทำให้เด็กและผู้ปกครองต้องรอ
เสียกำลังใจ
เสียทรัพย์
ไม่มั่นใจระบบแอดมิชชั่น
การตรวจข้อสอบอัตนัยไม่ได้มาตรฐาน
มีปัญหาเกือบทุกวิชา
และมีปัญหามาก
โดยเฉพาะวิชาอัตนัยภาษาไทย
วิชาภาษาไทยมีคณาจารย์ให้นักศึกษมหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นผู้ตรวจ
และกลายเป็นประเด็นปัญหา
ทั้งนี้ในหลักการของระบบแอดมิชชั่นนั้นผมเห็นว่า
เป็นหลักการที่ดี
โดยที่ผ่านมาพบว่า
ผลการเรียนในมหาวิทยาลัย
สัมพันธ์กับ
ผลการเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมปลาย
คือ
หากเด็กที่เรียนมัธยมศึกษาตอนปลายได้ดี
จะทำให้
เรียนในมหาวิทยาลัยดีด้วย
อีกทั้งอาจช่วยแก้ปัญหาการกวดวิชา
แต่ปัญหาดังกล่าวถือเป็นวิกฤติการบริหารนโยบายทางด้านการศึกษาของพรรคไทยรักไทย
ที่มาจากพฤติกรรมการบริหารงานในลักษณะของพรรคไทยรักไทย
ที่ไม่รับฟังใคร
แม้แต่จะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย
ทั้งผู้ปกครอง
และนักเรียน
นอกจากนี้
ยังเป็นผลพวงของการคิดเร็ว
ทำเร็ว
จนนำไปสู่ความผิดพลาด
ไม่มีการทดสอบระบบอย่างรอบคอบ
จนทำให้เกิดปัญหาคะแนนมั่ว
และความไม่เป็นธรรมในการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
อีกทั้งยังเห็นว่าเป็นการกระทำที่ขาดมาตรฐานความโปร่งใสและขาดความรับผิดชอบ
ผมจึงอยากเรียกร้องให้ทางพรรคไทยรักไทยคิดให้รอบคอบว่า
ผลการกระทำในครั้งนี้
สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก
และควรแสดงความรับผิดชอบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรจะคิดให้รอบคอบบนพื้นฐานทางวิชาการมากกว่าการเดา
|