เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
เหตุการณ์วางระเบิดในกรุงเทพมหานคร
8
จุดเมื่อวันที่
31
ธันวาคม
2549
เป็นสิ่งที่สังคมกำลังตั้งคำถามและเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันว่า
ใครอยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้
และผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศจะเป็นอย่างไร
ในภาพรวมเหตุการณ์วางระเบิดจะส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงในระยะสั้นเนื่องจากการยกเลิกกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงปีใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ
และเมืองใหญ่
รวมถึงการที่ประชาชนไม่กล้าออกไปจับจ่ายใช้สอยในที่ชุมนุมชน
ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศบางส่วนยกเลิกการเดินทางมายังประเทศไทย
อย่างไรก็ตามผลระทบของเหตุการณ์วางระเบิดต่อเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมาหากไม่มีปัญหาต่อเนื่องจะไม่รุนแรง
หากเหตุผลของการวางระเบิดมาจากข้อสมมติฐานที่ว่าการวางระเบิดเป็นฝีมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชนทางการเมือง
เนื่องด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
การวางระเบิดจะเป็นสถานการณ์ระยะสั้น
เนื่องด้วยกระแสความคิดเห็นของรัฐบาล
นักวิชาการ
นักวิเคราะห์การเมือง
รวมถึงเสียงจากผู้นำในกองทัพ
ที่พุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมือง
เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วางระเบิด
ความคาดหวังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะมีผลเสียหาย
ยืดเยื้อดังเช่นเหตุการณ์ความรุนแรงใน
3
จังหวัดภาคใต้
เพราะเป็นเพียงการสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายความเชื่อถือของฝ่ายรัฐบาล
การรับรู้สถานการณ์ของประชาชนที่มีมาก่อนหน้าแล้ว
ในระยะเวลาที่ผ่านมา
ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับทราบข้อมูลความขัดแย้งที่เกิดจากปัจจัยทางการเมืองที่ก่อตัวมาก่อนหน้าแล้วทั้งเรื่องการเผาโรงเรียนในภาคเหนือ
คลื่นใต้น้ำ
รวมถึงข่าวลือเรื่องเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงต้นปี
2550
การเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องใหม่
เนื่องจากประชาชนได้เตรียมรับสถานการณ์ไว้บ้างแล้ว
การวางระเบิดไม่ได้ทำให้ตัวแปรที่สำคัญทางเศรษฐกิจรับผลกระทบมาก
หากเป็นเช่นนี้ภาวะเศรษฐกิจในปี
2550
จะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากการคาดการณ์ของหน่วยงานต่าง
ๆ มากนัก
เพราะตัวแปรทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิด
ล้วนเป็นตัวแปรที่ไม่มีผลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี
2550
มาก
โดยก่อนหน้านี้ปัจจัยทางการเมืองได้ทำให้การลงทุนลดลง
และการบริโภคชะลอตัวลงมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว
ขณะที่การท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอยู่แล้ว
ความรุนแรงจากการวางระเบิดจึงไม่อาจทำให้ตัวแปรเหล่านี้แย่ลงไปได้อีกมากนัก
ในส่วนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
จะไม่หยุดชะงักยาวเนื่องจากประชาชนจำเป็นต้องจับจ่ายใช้สอย
ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าจากร้านค้าขนาดเล็กมากขึ้น
หรือออกมาจับจ่ายสินค้าน้อยครั้งลง
แต่ซื้อสินค้าจำนวนมากขึ้นในแต่ละครั้ง
สำหรับนักลงทุนยังคงมีความจำเป็นต้องลงทุนเพื่อทดแทนเครื่องจักรเก่าที่เสื่อมสภาพ
ส่วนนักท่องเที่ยวอาจปรับเปลี่ยนการเดินทาง
โดยไปท่องเที่ยวในจังหวัดอื่น
ๆ แทน
ด้วยเหตุนี้หากข้อสมมติที่ว่า
การวางระเบิดเป็นฝีมือของกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นจริง
แรงระเบิดจากเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงมากนักต่อเศรษฐกิจไทยในปี
2550
เว้นเสียแต่ว่าข้อสมมติดังกล่าวผิดไปจากความเป็นจริง
|