เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางทั่วโลก
เกิดจากปัจจัยสำคัญอย่างน้อย
2
ประการ
คือ
ความแม่นยำ
และความเป็นอิสระ
กล่าวคือ
ความแม่นยำในการประเมินสถานการณ์
การคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจ
และการคาดการณ์ผลกระทบจากนโยบายต่าง
ๆ
ส่วนความเป็นอิสระ
คือ
การดำเนินงานที่ปราศจากการแทรกแซง
ตัวอย่างที่ชัดเจน
คือ นายอลัน
กรีนสแปน
อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด)
ซึ่งคำพูดของเขาได้รับความเชื่อถืออย่างมาก
ทั้งจากคนในสหรัฐฯ
และคนทั่วโลก
ด้วยเหตุของความแม่นยำในการประเมินสถานการณ์ต่าง
ๆ และความเป็นอิสระของเฟด
ในทางตรงกันข้าม
วิกฤตการณ์เศรษฐกิจในปี
2540
เกิดจากการขาดความแม่นยำในการประเมินศักยภาพของนักเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน
ทำให้
ธปท.นำเงินทุนสำรองต่อสู้กับการโจมตีค่าเงินบาทจนหมดหน้าตัก
ส่งผลทำให้ความเชื่อถือที่มีต่อ
ธปท.ตกต่ำลงอย่างรุนแรง
เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วงลงกว่า
108
จุด
เนื่องจากมาตรการควบคุมการไหลเข้าของเงินลงทุนระยะสั้นของ
ธปท.
กำลังจะทำลายความน่าเชื่อถือของ
ธปท.ให้ตกต่ำลงอีกครั้งหนึ่ง
ประการแรก
คือ
ความสงสัยเกี่ยวกับความแม่นยำอันเกี่ยวข้องกับนโยบายควบคุมการไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น
ซึ่งสามารถจำแนกออกได้เป็น
2
ประเด็น
หนึ่ง
ความแม่นยำในการประเมินสถานการณ์และผลกระทบของนโยบาย
ซึ่งสังเกตได้จากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตลาดทุนค่อนข้างรุนแรงมาก
ถึงแม้ว่าหลังจากที่มาตรการนี้ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว
ผู้ที่เกี่ยวข้องยังได้ยืนยันผ่านสื่อว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการ
แต่หลังจากผลกระทบได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรง
ภาครัฐจึงกลับลำเปลี่ยนแปลงมาตรการในที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้นผลสัมฤทธิ์ที่มีต่อค่าเงินบาทกลับมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทั้ง ๆ
ที่มาตรการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่า
สอง
ความแม่นยำเกี่ยวกับกลไกในการควบคุมการไหลเข้าของเงินทุน
ทั้งนี้จากคำให้สัมภาษณ์ของผู้กำหนดนโยบายอาจทำให้เข้าใจไปได้ว่า
ภาครัฐทราบอยู่แล้วว่าการเก็งกำไรเกิดขึ้นในตลาดตราสารหนี้
แต่เหตุที่ต้องออกมาตรการควบคุมการไหลเข้าของเงินทุนทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน
เป็นเพราะไม่ทราบถึงกลไกในการแยกแยะเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ตลาดเงินและตลาดทุน
ต่อเมื่อได้ปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญแล้วจึงค้นพบว่ามีกลไกที่แยกแยะเงินลงทุนได้
ธปท.จึงยกเลิกมาตรการดังกล่าวสำหรับเงินลงทุนในตลาดทุน
ถึงแม้ว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบอาจมีการวิเคราะห์ในเชิงวิชาการมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะออกมาตรการนี้
แต่ผลกระทบรุนแรงที่เกิดขึ้นจากมาตรการนี้
กำลังจะทำลายความน่าเชื่อถือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
ประการที่สอง
คือ
ความสงสัยเกี่ยวกับความเป็นอิสระของ
ธปท.โดยพฤติกรรมของบุคคลต่าง
ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ครั้งนี้
ทำให้เกิดการตีความได้ว่า
ธปท.ไม่ได้มีอิสระในการกำหนดนโยบาย
แต่ดูเหมือนว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะมีบทบาทอย่างมากในการดำเนินมาตรการครั้งนี้
ถึงกระนั้น
เราอาจะมองได้ในอีกแง่หนึ่งว่า
รมว.คลังจำเป็นต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง
เพราะเป็นสถานการณ์ที่สำคัญ
และมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ
หรืออีกนัยหนึ่งคือ
รมว.คลังคนปัจจุบันเป็นอดีตผู้ว่าการ
ธปท.
จึงต้องการแสดงตัวว่าสนับสนุนผู้บริหารของ
ธปท.
ซึ่งเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองมาก่อน
อย่างไรก็ตาม
ความเชื่อถือเกิดขึ้นจากการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏของประชาชนและนักลงทุน
หากสังคมเกิดความสงสัยต่อผู้กำหนดนโยบายการเงินการคลัง
ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการดำเนินงานในอนาคตของ
ธปท.และจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือที่มีต่อรัฐบาลด้วย
รัฐบาลและ
ธปท.จึงควรเร่งแก่ความสงสัยดังกล่าว
ก่อนที่ความสงสัยจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นความเชื่อว่าเป็นความจริง
|