เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
นับจากนี้
ประเทศไทยกำลังจะมีรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของพลเอกสุรยุทธ์
จุลานนท์
นายกรัฐมนตรี
โดยมีระยะเวลาในการบริหารประเทศประมาณ
1
ปี
หลังจากนั้นจึงจะมีการเลือกตั้งทั่วไปภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่
แน่นอนว่า
สังคมไทยมีความคาดหวังอย่างสูงต่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นอย่างมาก
ตั้งแต่การกำหนดนโยบายทางด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนานาประเทศต่อประเทศไทย
การสร้างความสมานฉันท์ในสังคมไทย
การแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ฯลฯ
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นภารกิจที่หนักมากและยากมาก
สำหรับรัฐบาลชุดใหม่
ดังนั้นสิ่งสำคัญประการแรกคือ
การพิจารณาผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งคณะ
จำนวน
35
คน
คงจะต้องเน้นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริตและคุณธรรม
โดยที่ไม่มีความด่างพร้อยในประวัติการทำงาน
ขณะเดียวกัน
ต้องเน้นในด้านความรู้ความสามารถให้ตรงกับงานที่จะเข้ามารับผิดชอบ
และที่สำคัญต้องเป็นที่ยอมรับของสาธารณชน
หากได้คณะรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติดังกล่าว
ย่อมสามารถขับเคลื่อนในการบริหารประเทศในช่วงระยะเวลา
1
ปีนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศต่อสถานการณ์ของประเทศไทย
นอกเหนือจากการรักษาข้อผูกพันหรือสนธิสัญญาต่าง
ๆ
ที่ทำไว้กับนานาประเทศแล้ว
การเร่งทำความชัดเจนเกี่ยวกับแนวนโยบายเศรษฐกิจต่อนักลงทุนต่างประเทศนับว่ามีความสำคัญมาก
เพราะประเทศไทยตกอยู่ในสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนมาเป็นเวลานานแล้ว
การที่รัฐบาลใหม่มีแนวคิดเชิงนโยบายแตกต่างจากรัฐบาลเดิม
อาจจะทำให้ภาวะ
“รอคอยและเฝ้าดูสถานการณ์”
ยืดยาวออกไปอีก
หากปราศจากการชี้แจงให้เกิดความกระจ่าง
ในเรื่องของการสร้างความสมานฉันท์ในสังคมไทย
จำเป็นอย่างยิ่ง
ที่จะต้องรื้อกรอบความคิดในเรื่องของการ
”เอาทักษิณ”
หรือ
“ไม่เอาทักษิณ”
ให้หมดไปจากสังคมไทย
เพื่อมิให้มีการแบ่งเขาแบ่งเราหรือแบ่งพื้นที่ประเทศไทยเป็นภาค
ๆ
และให้ความสำคัญกับบางภูมิภาคเท่านั้น
แต่ควรจะสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมที่ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ฟื้นฟูสังคมไทยให้มีความเอื้ออาทรต่อกัน
และมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่ทุกคนจะมีส่วนในการพัฒนาประเทศร่วมกัน
ขณะที่ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นสิ่งที่ควรเร่งรีบแก้ไขเพื่อนำสันติสุขและความสงบเรียบร้อยกลับคืนมาโดยเร็ว
ซึ่งคงต้องพิจารณาจากข้อเสนอต่าง
ๆ
ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ข้อเสนอของอดีตคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ
(กอส.)
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในทางใดทางหนึ่งที่จะเข้าใจปัญหาต่าง
ๆ
ในพื้นที่
และแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยความเป็นธรรมและยุติธรรม
ถึงตรงนี้แล้ว
ในฐานะประชาชนคนไทยคงต้องร่วมสนับสนุนและให้กำลังใจต่อรัฐบาลชุดใหม่ในการทำงานตลอดหนึ่งปีข้างหน้า
และร่วมกันคิดร่วมกันเสนอในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งจะนำมาใช้เป็นกรอบกติกาในสังคมการเมืองไทยในอนาคต
|