เรียนมิตรสหายที่เคารพรักทุกท่าน
วันที่
1
มีนาคม
2548
มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ
ได้จัดประชุมเรื่อง
การประเมินนโยบายสาธารณะที่มีความสำคัญ
ในงานนี้ ดร.สม
เกียรติ
ตั้งกิจวาณิชย์
หัวหน้าโครงการวิจัย
การประเมินนโยบายสาธารณะได้นำเสนอว่า
หากนักวิชาการสามารถประเมินนโยบายสาธารณะที่รัฐบาลดำเนินการ
โดยมีงานวิจัยรองรับที่ชี้จุดบกพร่อง
และให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
จะช่วยลดการถูกต่อว่าจากนักการเมือง
ขาโจ๋
ว่าเป็นนักวิชาการ
ขาโจ๊ก
ที่เอาแต่ติไม่มีรูปแบบในการแก้ปัญหา
จากแนวทางดังกล่าว
ผมเห็นด้วยกับ ดร.สมเกียรติ
ตั้งกิจวาณิชย์
ในแนวคิดที่ว่า
การวิพากษ์รัฐบาลหรือการประเมินนโยบายควรมีหลักฐานงานวิจัยรองรับ
เพื่อช่วยหาทางออกในการแก้ปัญหาที่มีความน่าเชื่อถือให้กับรัฐบาล
อันเป็นการช่วยตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอีกทางหนึ่งที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่าการวิพากษ์โดยปราศจากหลักฐานรองรับ
อย่างไรก็ตาม
ผมคิดว่า
บทบาทหน้าที่ของนักวิชาการยังคงต้องทำหน้าที่
วิพากษ์
การตัดสินใจดำเนินนโยบายของรัฐบาลด้วย
เมื่อเห็นว่ามีบางประเด็นไม่ถูกต้อง
หรืออาจมีผลกระทบที่รุนแรงตามมา
โดยวิพากษ์วิจารณ์ด้วยเหตุผล
แม้ไม่มีงานวิจัยรองรับก็ตาม
มองอีกด้าน
ผมเสนอว่ารัฐบาลควรนำแนวทางดังกล่าวไปปฏิบัติเช่นกัน
คือ
ก่อนที่จะมีการออกนโยบายควรมีการศึกษาอย่างรอบด้าน
มีการวิจัยที่น่าเชื่อถือรองรับ
และเผยแพร่อย่างกว้างขวางให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล
ซึ่งที่ผ่านมา
การดำเนินนโยบายหลายเรื่องของรัฐบาล
มักอ้างว่า
มีการศึกษามาอย่างดีแล้ว
แต่กลับไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอย่างกว้างขวาง
รวมถึงยังมีอีกหลายนโยบายที่ไม่มีการศึกษาผลกระทบก่อนประกาศใช้
ทำให้นโยบายดังกล่าวล้มเหลว
ส่งผลกระทบต่อภาพรวมประเทศ
อาทิ โครงการอิลีทการ์ด
ที่ตั้งเป้าขาย
1,000,000
ใบ
ขายได้ไม่กี่พันใบ
โครงการเอื้ออาทรกว่า
10
โครงการที่ล้วนแต่ล้มเหลว
รวมถึงการจัดโซนสีใน
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง
ดังนั้น
หากรัฐบาลลงแรงทำวิจัย
ให้มีผลการวิจัยที่น่าเชื่อถือก่อนดำเนินนโยบาย
ย่อมจะช่วยลดการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ได้
รวมทั้งจะช่วยลดการกล่าวหาจากรัฐบาลว่า
นักวิชาการไม่อ่านข้อมูลให้ดีก่อนวิพากษ์วิจารณ์
เพราะรัฐบาลได้เปิดเผยข้อมูลอย่างกว้างขวางแล้ว
โดยสรุปถ้าทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันอย่างมีข้อมูล
มีหลักฐานงานวิจัย
มีเหตุมีผลที่น่าเชื่อถือ
ย่อมช่วยลดปัญหาการวิวาทะด้วยถ้อยคำที่รุนแรง
และย่อมก่อประโยชน์แก่ประชาชนผู้รับทั้งผลดีและผลเสียจากสิ่งที่รัฐบาลก่อขึ้น |