1.การชี้นำศาลเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ การที่ ปชป.ระบุว่าจะลงเลือกตั้งหากศาลตัดสินว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ เป็นการคาดการณ์และแสดงทิศทางของพรรคภายใต้ฉากทัศน์ (scenario) ต่าง ๆ ที่อาจเป็นไปได้ ปชป.จึงไม่ได้ชี้นำศาล แตกต่างจาก ทรท.ที่พยายามกดดันศาล โดยส่งสัญญาณว่า ส.ส.ของ ทรท.จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หากศาลมีคำตัดสินว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ คำถามคือ หากศาลตัดสินว่าการยุบสภาเป็นโมฆะ ส.ส.จะไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับนายกฯ หรือไม่

2.การเปลี่ยนแปลงจุดยืนในการลงเลือกตั้ง การที่ ปชป.ประกาศพร้อมลงเลือกตั้ง หากศาลตัดสินว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ เป็นการน้อมรับพระราชดำรัสและยอมรับคำตัดสินของศาล แต่หลักการที่พรรค ปชป.ยึดถือไม่เคยเปลี่ยน คือการมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่วนการที่
นายอภิสิทธิ์ประกาศตัวเป็นนายกฯ เพราะหัวหน้าพรรค ปชป.มีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะเป็นทางเลือกของประชาชน แต่ประเด็น ทรท.ควรตอบให้ชัดเจน คือ หน.พรรค ทรท.จะเว้นวรรคหรือไม่หากการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ

3.การกดดันให้ กกต.ลาออก ประเด็นนี้ ปชป.ไม่เคยกดดันให้ กกต.ลาออก อย่างไรก็ตาม หากศาลตัดสินว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ควรจะต้องมีผู้ที่ต้องรับผิดชอบ และไม่ควรมีการอ้างว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค เหมือนกรณีของ การแปรรูป กฟผ.

4. การเชิญทูตต่างประเทศไปฟังคำด่ารัฐบาล การอภิปรายของ หน.พรรค ปชป.เป็นการแสดงจุดยืนของพรรคต่อนานาประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นว่า หาก ปชป.ได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ประเทศไทยจะยังคงยึดมั่นแนวนโยบายที่รัฐบาลชุดก่อนได้ประกาศหรือสร้างข้อผูกมัดไว้กับต่างประเทศ แต่จะมีการปรับปรุงให้มีคุณภาพมากขึ้นและอยู่บนฐานความเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งไม่ได้ทำให้ต่างชาติมองประเทศไทยว่ามีความขัดแย้ง แต่กลับทำให้มีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยมากขึ้น

5.การลอกนโยบายของ ทรท. ปชป.จำเป็นต้องกล่าวถึงนโยบายที่ ทรท.ได้ทำมาแล้ว เพราะประชาชนต้องการทราบว่า หาก ปชป.เป็นรัฐบาลจะยกเลิกนโยบายที่รัฐบาลเดิมได้ทำไว้หรือไม่ ซึ่ง หน.พรรค ปชป.ได้กล่าวไปแล้วว่าจะปรับปรุงนโยบายบางอย่างให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้น นอกจากนี้ นโยบายส่วนใหญ่ที่ ปชป.จะดำเนินการเป็นจุดยืนเดิมที่มีมาตั้งแต่รัฐบาลชวน 2 เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้มีการแข่งขันและมีหน่วยงานอิสระที่ทำหน้าที่กำกับดูแล และนโยบายที่ ปชป.จะดำเนินการต่อ ล้วนเป็นแนวคิดที่เริ่มต้นขึ้นในรัฐบาลชวน 2 ซึ่งรัฐบาล ทรท.ลอกเลียนมา แต่กลับทำให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะกองทุนหมู่บ้าน โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า

6.แกนนำ ปชป.มุ่งสร้างคะแนนนิยมจากคนใต้ การที่แกนนำ ปชป.มีประชาชนภาคใต้นิยมชมชอบนั้น เกิดจากสิ่งดีที่ได้กระทำมาตลอดทั้งชีวิต ไม่ได้เกิดจากการสร้างภาพ ซึ่งดีกว่าแกนนำพรรคบางพรรคที่ประชาชนทั้งภาคไม่นิยม ทำให้ไม่กล้าแม้จะลงไปปราศรัยที่ภาคใต้

7.การโยกงบบางโครงการไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาการทุจริตที่แท้จริง ประเด็นนี้เป็นการโต้แย้งของ ทรท.ต่อประเด็นที่ หน.พรรค ปชป.กล่าวว่า ผู้นำต้องไม่โกง ซึ่งเป็นการโต้แย้งที่ผิดประเด็น เพราะการโยกงบบางโครงการที่ถูกยกเลิกมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 3 สายใน กทม. มิได้มี
วัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการทุจริต แต่เป็นการจัดงบประมาณตามลำดับความสำคัญ