Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

ขอคิดอย่างสร้างสรรค์

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก 

ในฐานะที่ผมเคยเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ ชุดแรก ซึ่งในการประชุมสภาผู้แทนฯ ได้มีวาระเกี่ยวกับรายงานประจำปี พ..2546 ของสภาที่ปรึกษาฯ เข้าสภา ผมขอเป็นเสียงสะท้อนให้กับสภาที่ปรึกษาฯ ว่าที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมักเพิกเฉยต่อความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯมาโดยตลอด หากนับถึงปัจจุบัน สภาที่ปรึกษาฯ ได้จัดทำข้อเสนอมายัง ครม.กว่า 100 เรื่อง แต่มีเรื่องที่ค้างการพิจารณาอยู่ที่คณะรัฐมนตรีถึงกว่า 40 เรื่อง ทั้ง ๆ ที่หลายเรื่องเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ควรรีบพิจารณา

นอกจากนี้ ในเรื่องที่นำไปพิจารณาพบว่า คณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เวลามากในการพิจารณาข้อเสนอของสภาที่ปรึกษาฯ นับตั้งแต่การได้รับความเห็นและข้อเสนอแนะฯ พบว่า ครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้เวลาเฉลี่ยในการพิจารณามากกว่า 168 วัน ทั้ง ๆ ที่ควรพิจารณาเสร็จในเวลาไม่เกิน 15-20 วัน ทำให้ข้อเสนอฯ ในประเด็นเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ กลับไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติ เพราะช้าเกินไปไม่ทันการณ์

ยิ่งต่อไป รัฐบาลมีแนวนโยบายยกเลิกการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาที่ปรึกษาจะสามารถถูกเพิกเฉยจากรัฐบาลได้โดยสมบูรณ์ ทั้งนี้เพราะในการดำเนินการของรัฐบาลและส่วนราชการ มีเพียงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเท่านั้น ที่กฎหมายกำหนดให้ผ่านความเห็นของสภาที่ปรึกษาฯ ที่รัฐบาล ในขณะที่แผนอื่น ๆ ไม่ต้องผ่านความเห็นของสภาที่ปรึกษาฯ ก่อนการประกาศใช้ ทำให้รัฐบาลจึงไม่มีความจำเป็นใด ๆ ในการรับฟังความคิดเห็นของสภาที่ปรึกษาฯ

ฉะนั้นทางออกเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสภาที่ปรึกษาฯ คณะรัฐมนตรี หน่วยงานราชการ และสภาที่ปรึกษาฯ ควรร่วมกันกำหนดกฎหมายบัญญัติให้สภาที่ปรึกษาฯ ต้องให้ความเห็นในกระบวนการจัดทำแผนระดับชาติต่าง ๆ ก่อนการประกาศใช้ รวมทั้งสภาที่ปรึกษาฯและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีควรทำข้อตกลงกันอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนพิจารณา และการจัดทำรายงานผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ โดยประเด็นสำคัญที่ควรมีการตกลงกัน เช่น กำหนดขั้นตอนการพิจารณาความเห็นและข้อเสนอแนะฯ อย่างชัดเจน กำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับเนื้อหาของการพิจารณา และรูปแบบการจัดทำรายงานผลการพิจารณา เป็นต้น