เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
กรณีที่
นายจตุพร
พรหมพันธุ์
รองโฆษกพรรคไทยรักไทยที่กล่าวพาดพิงถึงผมว่า
ข้อเสนอของผมที่เสนอให้เปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดจากหลายฝ่ายเข้ามาร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีลอบวางระเบิดนั้น
ทำไม่ได้ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของไทย
และกล่าวหาว่า
‘อย่าเอาความไม่ชอบนายกฯมาทำลายกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย’
รองโฆษก
ทรท.ยังกล่าวพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า
‘ทำไมต้องมาเดือดเนื้อร้อนใจกับคดีนี้มาก
แต่คดีระเบิดพรรคตัวเองกลับนิ่งเฉย’
ผมจึงขออนุญาตมิตรสหายอธิบายประเด็นดังกล่าวดังนี้
1)
ให้ฝ่ายอื่นร่วมตรวจสอบไม่ผิดกฎหมาย
ข้อเสนอของผมไม่ได้ทำลายกระบวนการยุติธรรม
แต่กลับทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น
เนื่องจากคดีดังกล่าวมีข้อถกเถียงเชิงเทคนิคว่า
วัตถุระเบิดที่บรรทุกอยู่ในรถยนต์สามารถระเบิดได้จริงหรือไม่
ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญต่อรูปคดีว่าเป็นการลอบสังหารหรือการสร้างสถานการณ์
ผมจึงเสนอว่าควรขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดเข้ามาร่วมตรวจสอบ
ประการสำคัญ
ข้อถกเถียงดังกล่าวเกิดจากผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดของตำรวจและทหาร
จึงควรมีผู้เชี่ยวชาญจากฝ่ายพลเรือนหรือผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศเข้ามาร่วมตรวจสอบเพื่อให้ความเห็นด้วย
แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คนเหล่านี้เข้ามาทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้มาตรา
131
ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
กำหนดว่า
ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานทุกชนิดเท่าที่สามารถจะทำได้
เพื่อประสงค์จะทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ
อันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา
และเพื่อจะรู้ตัวผู้กระทำผิดและพิสูจน์ให้เห็นความผิด
ดังนั้น
นิยามของการสอบสวนจึงครอบคลุมถึงการรับฟังข้อมูลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้วย
และโดยอำนาจพนักงานสอบสวนอาจขอให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบหรือให้ความเห็นได้
2)
ประชาชนต้องมาก่อนพรรค
ส่วนประเด็นพาดพิงถึงพรรค
ปชป.
ผมขอตอบว่าทางพรรคให้ความสำคัญกับทุกคดีแต่จัดลำดับตามความสำคัญ
โดยคดีที่กระทบต่อประชาชนต้องมาก่อนความเดือดร้อนของพรรค
ทั้งนี้ทั้งนั้น
ทาง ปชป.ไม่ได้นิ่งเฉยกับคดีวางระเบิดพรรค
เพราะได้เรียกร้องให้ตำรวจรีบเร่งสอบสวนมาตลอด
สำหรับพรรคปชป.
ผมยืนยันว่าเราเดือดเนื้อร้อนใจมาก
ๆ
เพราะเป็นคดีประชาชนมีข้อกังขา
อาจกระทบความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
อาจกระทบความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมและอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและชาวต่างชาติ
พรรค ปชป.จึงต้องให้ความสำคัญกับคดีนี้มากกว่าคดีลอบวางระเบิดพรรค
ผมไม่ได้มีเหตุอื่นใดจะแสดงความเห็นเรื่องนี้
แต่ผมต้องการให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด
สังคมจะได้คลายความสงสัย
ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่ได้จัดฉาก
ผมไม่เข้าใจว่าจะต้องกลัวอะไร
กลัวความจริงจะเปิดเผยหรือไม่
ถึงไม่กล้าให้ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดที่ไม่ใช่ตำรวจเข้าไปร่วมตรวจสอบ
|