เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
ปัญหาความรุนแรงของเด็กและเยาวชนในกลุ่มผู้เรียนดูเหมือนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
โดยส่วนใหญ่เป็นลักษณะการทะเลาะวิวาทและการยกพวกตีกัน
กรณีล่าสุดที่เผยแพร่ทางสื่อคือ
คลิปวีดีโอการรุมทำร้ายเพื่อนนักเรียนของเด็กชั้นมัธยมศึกษา
และอาชีวศึกษาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับการสำรวจ
“วัยรุ่นไทยกับการใช้ความรุนแรง”
ที่สำนักวิจัยเอเบคโพลร่วมกับกรมสุขภาพจิตพบว่า
วัยรุ่นไทยมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงมากขึ้น
สาเหตุของการใช้ความรุนแรงอาจมาจากหลายปัจจัย
อาทิ
สภาพแวดล้อมที่ยั่วยุเด็ก
สภาพการเลี้ยงดูของพ่อแม่
แรงกระตุ้นจากกลุ่มเพื่อน
ค่านิยมการเป็นศัตรูกับคนต่างพวก
การเรียกร้องความสนใจ
ตลอดจนการซึมซับความรุนแรงจากสื่อต่าง
ๆ
และของเล่นหรือเกมที่สื่อถึงความรุนแรง
เช่น ปืน
อาวุธ
เกมส์คอมพิวเตอร์
ละคร
เป็นต้น
การแก้ปัญหาการใช้ความรุนแรงจึงควรใช้วิธีการที่หลากหลายและดำเนินการอย่างเป็นระบบ
รวมถึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม
หรือที่ผมเรียกว่า
“การแก้ไขและป้องกันการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้เรียนแบบครบวงจร”
โดยผมขอเสนอแนวทางดังนี้
ครอบครัว
พ่อแม่หรือคนในครอบครัวนับว่ามีบทบาทสำคัญในการลดแรงกระตุ้นพฤติกรรมก้าวร้าวและความรุนแรงในเด็ก
โดยการขัดเกลาพฤติกรรมลูกตั้งแต่ปฐมวัย
เช่น
การเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก
ให้เวลากับเด็กอย่างเพียงพอ
ไม่ปล่อยปละละเลยลูกในการรับสื่อหรือการคบเพื่อน
และเอาใจใส่ในเรื่องต่าง
ๆ
เมื่อพบว่าเด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว
พ่อแม่ไม่ควรเพิกเฉย
แต่ควรเรียกมาพูดคุย
สื่อสารกับลูกด้วยความรัก
และพูดคุยด้วยเหตุผลเป็นหลักว่า
สิ่งใดทำได้
ทำไม่ได้
เพราะเหตุใด
สถานศึกษา
ผู้บริหารการศึกษาควรกำหนดเป็นเป้าหมายให้ทุกโรงเรียนจัดทำโครงการเพื่อเสนอแนวทางแก้ไขและป้องกันอย่างชัดเจนและเป็นขั้นตอน
จัดทำแผนยุทธศาสตร์ระยะสั้น
และพัฒนาครูให้เป็นแบบอย่างและสามารถแก้ไขความรุนแรงที่เกิดขึ้น
จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้เด็กและเยาวชนเห็นคุณค่าศักยภาพของตัวเอง
โดยสอดแทรกค่านิยมรู้แพ้รู้ชนะ
และการใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์
หลักสูตรการสอน
หลักสูตรควรได้รับการปรับให้มีความยืดหยุ่น
ไม่มุ่งเน้นพัฒนาแต่ด้านวิชาการที่มุ่งให้เด็กเรียนเพื่อสอบแข่งขันเท่านั้น
แต่ควรสอนให้เด็กเป็นคนดี
สามารถใช้หลักเหตุผลในเชิงคุณธรรมจริยธรรมได้อย่างร่วมสมัย
เพื่อลดปัญหาเด็กเก่งแต่ขาดคุณธรรม
ชุมชน
การยับยั้งปัญหาต่าง
ๆ
ในเด็กวัยรุ่นนั้น
ไม่สามารถกระทำได้โดยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเพียงลำพัง
ด้วยเหตุนี้ชุมชน
เครือข่ายพ่อแม่ผู้ปกครอง
ควรมีส่วนแก้ไขป้องกันการใช้ความรุนแรง
เช่น
ครูควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครองเพื่อช่วยสอดส่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
การส่งเสริมให้ชุมชนเป็นหูเป็นตาเพื่อป้องกันปัญหาความรุนแรง
ในส่วนของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีบทบาทที่สำคัญคือ
การผลักดัน
สนับสนุนให้โครงการแก้ไขป้องกันการใช้ความรุนแรงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ตลอดจนกระตุ้นให้สื่อ
ดารา-นักร้องนำเสนอเนื้อหาและผลงานที่สร้างสรรค์
และทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี
เช่น การจัดเรตติ้งสื่อ
สนับสนุนและให้รางวัลสื่อที่นำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจและส่งเสริมคุณธรรม
อย่างไรก็ตาม
การดำเนินการข้างต้นไม่ควรทำเพียงเพื่อการเร่งหาทางออกแบบชั่วครู่ชั่วยามในเวลาที่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น
แต่จากนั้นกลับเงียบหายไปเหมือนไฟไหม้ฟางอย่างที่ผ่านมาในอดีต
ซึ่งจะไม่สามารถป้องกันแก้ไขปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวและรุนแรงในเด็กได้ในระยะยาวอย่างแท้จริง
|