Go www.kriengsak.com

ประวัติ

ครอบครัว

งานวิชาการ

กิจกรรม

Press

Contact us

ค้นหา

 

 ขอเสนออย่างสร้างสรรค์


 วอนนายก ใช้เวทีสนามหลวง 3 มี.ค. อย่างสร้างสรรค์
Dear Prime Minister, we trust in your creative intentions for March 3rd at Sanam-Luang

 

2 มีนาคม 2549

 

เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก

จากสถานการณ์การเมืองที่ร้อนระอุขึ้นทุกวัน นับตั้งแต่การประกาศยุบสภาของท่านนายกรัฐมนตรี การชุมนุมครั้งใหญ่ของประชาชนนับแสนคนที่ต้องการให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากประชาชนเห็นว่านายกฯ หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ รวมทั้งการรวมพลังของอดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลขาดความจริงใจในการแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง และเงื่อนงำในการประกาศยุบสภา ซึ่งเป็นเพียงการซื้อเวลาและช่วงชิงความได้เปรียบให้กับตนเองเท่านั้น

กระแสการต่อต้านที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มที่จะลุกลามออกไปอย่างรวดเร็วจนยากจะหยุดยั้ง ทำให้ตัวท่านนายกฯเองยังไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป จนต้องออกมาประกาศขอขึ้นเวทีชี้แจงที่ท้องสนามหลวง โดยกล่าวว่า  “วันที่ 3 มี..นี้ผมจะเปิดใจ ผมถูกเล่นงานมานาน ผมจะใช้สนามหลวงเปิดการปราศรัยใหญ่ ประชาชนคนใดต้องการจะฟังเชิญมาได้เลย”

 การปราศรัยของท่านนายก ฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มี.ค. นี้แม้จะเป็นสิทธิที่ท่านสามารถทำได้ แต่ผมอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า การปราศรัยใหญ่ครั้งนี้อาจจะกลายเป็นการเทน้ำมันราดไปบนกองไฟ หากการปราศรัยดังกล่าวมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการชี้แจงอย่างมีเหตุผล แต่กลับเป็นการใช้กลยุทธ์ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” เพื่อประลองกำลังหรือสำแดงแสนยานุภาพว่า ใครมีกำลังคนเหนือกว่า

หากยังยืนยันจะปราศรัย ผมอยากเห็นการปราศรัยที่เกิดขึ้นในวันที่ 3 มี.ค. นี้ เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ มิใช่เพื่อการตอบโต้เพียงเพื่อเป็นการแก้แค้นม๊อบ  ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่ท่านนายก ฯ ต้องพึงระวังให้มากคือ

การใช้คำพูดที่ไม่สร้างสรรค์  คำพูดเสียดสี แสดงอารมณ์ที่โกรธแค้น ต้องการเอาชนะ นอกจากจะไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้แล้ว ยิ่งทำให้เกิดความเคียดแค้นชิงชังและแสดงให้ประชาชนทั่วประเทศเห็นถึงการขาดวุฒิภาวะความเป็นผู้นำประเทศอีกด้วย ผมจึงอยากเห็นเวทีการปราศรัยของท่านนายกฯ เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ด้วยการพูดชี้แจงด้วยเหตุและผล เปิดใจให้คนที่มีข้อสงสัยได้ซักถามให้กระจ่าง มิใช่เป็นเพียงเวทีในการแก้แค้นหรือแก้ตัวเท่านั้น

การขนม็อบมาชนม็อบ การจัดเวทีปราศรัยในสถานที่เดียวกัน และในวันเวลาที่ใกล้เคียงกับฝ่ายผู้ชุมนุมต่อต้านนายกฯ นับเป็นการกระทำที่ท้าทายต่ออีกฝ่าย และเป็นความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดการเผชิญหน้าและปะทะกันด้วยความรุนแรง เพราะมีความเป็นไปได้ที่ต่างฝ่ายต่างจะมีการขนม็อบที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองมาประจัญหน้ากัน ดังนั้นผมจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง หากจะมีการขนม็อบมาเพื่อฟังการปราศรัยในวันที่ 3 มี.ค. นอกจากนี้ท่านนายกฯ เองได้เคยกล่าวว่า ขอให้คนที่เชียร์ท่านหรือชื่นชอบท่านไม่ต้องออกมาชุมนุมใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งผมหวังว่าการปราศรัยใหญ่ในครั้งนี้ ท่านคงจะไม่กลืนน้ำลายตัวเอง

 การเลือกปฏิบัติ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีการเลือกปฏิบัติของหน่วยงานภาครัฐ ในการอำนวยความสะดวกหรือการดูแลประชาชนที่มาฟังการปราศรัย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่พอใจของประชาชนตามมาได้ ทั้งนี้ในการชุมนุมวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการปิดกั้นด้านข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐค่อนข้างมาก อาทิ การปิดเว็บไซต์ หรือการปิดคลื่นวิทยุชุมชนที่มีการถ่ายทอดบรรยากาศการชุมนุม หรือมีความพยายามควบคุมการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ ASTV แต่หากการปราศรัยของนายก ฯ ในวันที่ 3 มี.ค. หน่วยงานภาครัฐกลับเลือกปฏิบัติโดยอนุญาตให้มีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ทุกช่องหรือวิทยุทุกคลื่น การกระทำดังกล่าวย่อมก่อให้เกิดข้อกังขาในสังคม ถึงความไม่เป็นธรรมในการใช้อำนาจรัฐ ที่พยายามเอารัดเอาเปรียบผู้ที่อ่อนแอกว่าในทุกวิถีทาง ทั้งนี้ต้องคำนึงเสมอว่านายกได้ใช้เวลาและโอกาสของสื่อข่าวของราชการในการชี้แจงเรื่องต่างๆ ตลอดเรื่อยมาอยู่แล้ว มิใช่เพื่อจะมีโอกาสชี้แจงในครั้งนี้เท่านั้น

ผมหวังว่าการปราศรัยใหญ่ของท่านนายก ฯ ในวันที่ 3 มี.ค. นี้ จะเป็นไปด้วยความสร้างสรรค์ สงบเรียบร้อยและสามารถทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดคลี่คลายลงไปได้ แต่หากไม่ระมัดระวังในสิ่งที่ผมได้เตือนข้างต้นนี้ ท่านนายกฯเองคงจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด