เรียนมิตรสหายที่เคารพรัก
จากการตอบข้อซักถามนักข่าวของนายกรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เมื่อนักข่าวได้ยก
ประเด็นนาวิกโยธิน 2
นายถูกฆ่าตาย นายกฯ ได้กล่าวคำยืนยันว่า ทหารต้องไม่ตายฟรี
และจากรายการนายกฯทักษิณพบประชาชน ได้กล่าวประณามคนร้ายว่า
คนพวกนี้เหมือนสัตว์เดรัจฉาน
แน่นอนที่สุดที่คนไทยทั้งประเทศ
รวมทั้งผมด้วย มีความสะเทือนใจอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนาวิกโยธินทั้งสอง
และผมคิดว่าการกล่าวเจตนารมณ์ของนายกฯ
ได้แสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐถูกสังหาร
และเป็นหลักการที่ถูกต้องในการจะนำคนผิดมาลงโทษตามวิถีทางกฎหมาย
แต่เมื่อเราตั้งข้อสังเกตในกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ถูกลอบยิงในร้านน้ำชาก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง
นายกฯกลับไม่กล่าวแสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจนว่า
จะหาคนผิดมาลงโทษเหมือนในกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐถูกฆ่า
การใช้คำพูดที่แข็งกร้าวแต่ขาดความสมดุล
อาจทำให้ประชาชนในประเทศเกิดความรู้สึกเกลียดชังต่อคนในพื้นที่เพิ่มขึ้น
การกล่าวคำพูดในลักษณะนี้จะเป็นการปลุกกระแสชาตินิยม
ซึ่งอาจทำให้ประชาชนในประเทศรู้สึกเกลียดชังประชาชนในพื้นที่โดยไม่ตั้งใจหรือไม่
รวมทั้งทำให้ประชาชนใน 3
จังหวัดเกิดความหวาดระแวงและไม่ไว้วางใจรัฐมากขึ้นหรือไม่
ผมตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดนโยบาย การให้สัมภาษณ์
หรือการแสดงความคิดเห็นของคนในฝ่ายรัฐบาลหลายต่อหลายครั้ง
อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
และประชาชนในพื้นที่อื่น เช่น การแบ่งโซนสีในพื้นที่ 3
จังหวัดภาคใต้ การปิดโรงเรียนสอนศาสนา
การทำโครงการนำร่องใช้บัตรประชาชนเอนกประสงค์ใน 3
จังหวัดภาคใต้ก่อนภาคอื่น หรือแม้แต่การออก พ.ร.ก.การบริหารราชการแผ่นดินในภาวะฉุกเฉิน
เป็นต้น มาตรการเหล่านี้อาจทำให้พี่น้องใน 3
จังหวัดภาคใต้เกิดข้อกังขาว่ารัฐบาลมองคนใต้แปลกแยกจากคนในพื้นที่อื่น
ผมเห็นว่าในสถานการณ์ที่เปราะบางเช่นนี้
รัฐบาลต้องให้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการกำหนดนโยบาย
และการให้ข้อมูลหรือให้สัมภาษณ์แก่สื่อสารมวลชนและประชาชนในประเทศ
รัฐบาลควรจัดระบบกลั่นกรองนโยบายและการสื่อสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ 3
จังหวัดภาคใต้เสียใหม่
เพื่อให้ข้อมูลถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรัดกุมและสมดุลมากที่สุด
|