Go www.kriengsak.com ประวัติ ครอบครัว งานวิชาการ กิจกรรม Press Contact us ค้นหา

 

จับโกหกการหาเสียงไทยรักไทย

..................................................

 

      ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ วิพากษ์การรณรงค์หาเสียงของพรรคไทยรักไทยว่า ล้วนเป็นเรื่องโกหกและทำไม่ได้จริง ทั้งผลงานตลอด 5 ปีของการเป็นรัฐบาล และนโยบายที่จะทำในอนาคต

ลวงตา..GDP โต พรรคไทยรักไทยอ้างว่า เศรษฐกิจปี 2544-2548 โตขึ้นจาก 4.9 เป็น 7.1 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะเป็นรายได้ของประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยยังไม่ได้หักราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น แต่รายได้ที่แท้จริงเพิ่มขึ้นเพียง 8 แสนล้านบาทเท่านั้น (ตารางที่1) ยิ่งไปกว่านั้น การที่เศรษฐกิจโตขึ้นส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นจากฝีมือของรัฐบาลทักษิณ แต่เกิดจากการส่งออกที่ขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก

ชุบมือเปิบ..คืนหนี้ IMF ทรท.อ้างเสมอว่าคืนหนี้ไอเอ็มเอฟก่อนกำหนด ทั้งที่เงินทุนสำรองระหว่างประเทศในรัฐบาลก่อนเพิ่มขึ้นถึง 32,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เงินทุนสำรองฯ ในรัฐบาลทักษิณ 1 นับจนถึงวันที่ชำระหนี้ไอเอ็มเอฟหมดนั้น เพิ่มขึ้นเพียง 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ (ตารางที่ 2) และยังขู่ว่าถ้าไม่เลือก ทรท.ประเทศไทยจะต้องเข้าไอเอ็มเอฟอีกครั้ง ทั้งที่ในความเป็นจริง รัฐบาลที่ใช้นโยบายประชานิยม ขาดวินัยการคลัง เปิดเสรีอย่างสุดโต่ง และคอร์รัปชั่นรุนแรง ล้วนมีจุดจบที่ไอเอ็มเอฟทั้งสิ้น

อ้างบุญคุณ..เกษตรราคาสูง ทรท.อ้างว่าทำให้ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ทั้งที่จริงแล้ว เกิดจากสภาพภูมิอากาศโลกแปรปรวน และการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคายางพาราที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ยางพาราในโลกที่มีมากกว่าผลผลิตที่ผลิตได้ จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอาเซียน ญี่ปุ่น โดยเฉพาะจีนที่นำเข้ายางพาราจากไทยเพิ่มขึ้นมาก และราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้มีการใช้ยางพาราทดแทนยางสังเคราะห์มากขึ้น

คุยโม้..คนจนจะหมดไป ทรท.หาเสียงว่าจะทำให้คนจนหมดไปภายใน 3 ปี นับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะจากการคำนวณของผม พบว่า หากคนจนจะหมดไปภายใน 3 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจไทยจะต้องเติบโตอย่างต่ำร้อยละ 8 ต่อปี แต่จากการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2549 - 2551 พบว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ร้อยละ 5.7 และร้อยละ 5.9 เท่านั้น

โกหก..กทม.จะไม่มีรถไฟฟ้า พรรค ทรท.โกหกประชาชนว่า หากไม่เลือก ทรท. คนกรุงเทพจะไม่มีรถไฟฟ้าใช้ ทั้งที่ความจริงแล้ว การสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ในกรุงเทพฯและพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เป็นแผนที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้มีการศึกษาและเตรียมการก่อนที่จะมีรัฐบาลทักษิณเสียอีก ฉะนั้นไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลคนกรุงเทพฯ จะยังคงมีรถไฟฟ้าใช้เหมือนกัน

ขู่ 30 บาทจะถูกยกเลิก พรรค ทรท.อ้างว่านโยบายนี้เป็นผลงานของตน และขู่ว่าหากไม่เลือก ทรท. โครงการนี้จะถูกล้มเลิกไป แต่แท้ที่จริง โครงการนี้ได้ทำเป็นโครงการนำร่องในรัฐบาลชุดก่อน ยิ่งกว่านั้น รัฐบาลทุกชุดจะต้องสานต่อโครงการนี้ และต้องทำให้คนจนเข้ารักษาได้โดยไม่ต้องเสียแม้แต่ค่าใช้จ่าย 30 บาท เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 52 กำหนดให้ “ผู้ยากไร้มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากสถานบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”

หลอก..คนจนจะได้เรียน ทรท.โฆษณาชวนเชื่อว่า ICL จะทำให้คนอยากเรียนและเรียนได้ต้องได้เรียน แต่รัฐบาล ทรท.กลับลดงบประมาณกองทุนเงินให้เปล่า ซึ่งจะทำให้ทุนการศึกษาแก่คนยากจนลดลง ขณะที่ระบบ ICL ได้สร้างเงื่อนไขที่ทำให้คนที่มีเงินมาแย่งเงินกู้ยืมเรียนจากคนจน เพราะอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ยิ่งไปกว่านั้น ยังยกเลิกการให้กู้เงินสำหรับการใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนที่ยากจนไม่สามารถเข้าศึกษาในอุดมศึกษาได้อย่างแท้จริง

ผมเห็นว่าถึงเวลาที่พรรคไทยรักไทยจะเลิกโกหกประชาชน แสดงความจริงใจกับคนไทยทั้งประเทศ หรืออย่างน้อยควรแสดงความจริงใจต่อ 19 ล้านเสียงที่นายกฯ มักกล่าวอ้างอยู่บ่อยครั้ง

           

ตารางที่ 1 GDP ณ ราคาปัจจุบัน (Nominal GDP) และ GDP ณ ราคาปีฐาน (Real GDP) ปี 2543 ถึง 2548

 

2543

2544

2545

2546

2547

2548

ปี 2548 – ปี 2543

NGDP

4,922,731

5,133,502

5,450,643

5,928,975

6,503,488

7,102,962

2,180,231

RGDP*

3,008,401

3,073,601

3,237,042

3,464,701

3,678,511

3,842,527

834,126

* คิดจากราคาปีฐาน คือปี 2531

ที่มา : ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย

ตารางที่ 2 เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และการชำระหนี้ IMF

(ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

รัฐบาลชวน 2

รัฐบาลทักษิณ 1

เงินทุนสำรองฯ สุทธิ ก่อนเป็นรัฐบาล

900

32,600

เงินทุนสำรองฯ สุทธิ ณ วันสิ้นสุดการเป็นรัฐบาล

32,600

-

เงินทุนสำรองฯ สุทธิ ณ วันที่ชำระหนี้ IMF หมด

-

37,548

ใช้หนี้ IMF (ตัวเลขโดยประมาณ)

900

12,000

รัฐบาลทำให้เงินทุนสำรองฯ เพิ่มขึ้น

32,600

16,948

ที่มา : ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย

*****************************************************************