เกรียงศักดิ์หวั่นใช้สมาร์ทการ์ด 3 จังหวัดชายแดนตอนนี้ไม่เหมาะ
เป็นการส่งสัญญาณที่ผิด
อาจจะยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแยกและความขัดแย้งขยายวงกว้างขึ้น
ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงการที่รัฐบาลตัดสินใจนำร่องโครงการบัตรสมาร์ทการ์ด 1.3
ล้านใบ มาใช้กับประชาชนใน 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เมื่อวิเคราะห์ด้วยใจเป็นธรรมพบว่าอาจก่อปัญหาตามมา อาทิ
เกิดการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่
เนื่องจากจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดว่าจะมีข้อมูลอะไรบ้างที่บรรจุลงในบัตร
อีกทั้งรัฐบาลจะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้อย่างไรว่า จะไม่นำข้อมูลในบัตรสมาร์ทการ์ดไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
หรือล่วงล้ำสิทธิและเสรีภาพ นอกจากนี้อาจทำให้ประชาชนเกิดคำถามว่า
เหตุใดต้องเริ่มทำที่ 3 จังหวัดภาคใต้ก่อน
รัฐบาลต้องการจะล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของประชาชนใน 3
จังหวัดภาคใต้หรือไม่ ควรใช้ทั้งประเทศพร้อมกันเพื่อไม่ก่อให้เกิดความแปลกแยก
ซึ่งประเด็นนี้อาจถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ทำให้ประชาชนเกิดความไม่ไว้วางใจต่อรัฐมากยิ่งขึ้น
“จะว่าไปแล้วบัตรสมาร์ทการ์ดเป็นปัญหาตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ 1
ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า จะมีความเหมาะสมหรือไม่
หากรัฐบาลจะนำเอาข้อมูลทุกอย่างของประชาชนบันทึกลงในบัตรนี้
เพราะยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยของข้อมูล หากมีการนำข้อมูลบุคคลไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ
หรือปัญหาความเป็นส่วนตัว และปัญหานานาประการที่ยังไม่มีข้อยุติ
ทำให้นโยบายนี้ยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน”
ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า
อีกประเด็นหนึ่ง การที่รัฐบาลต้องการใช้สมาร์ทการ์ดเป็นเครื่องมือเพื่อแก้ปัญหาคนถือสองสัญชาติ
โดยให้ประชาชนในพื้นที่เลือกว่าจะใช้สัญชาติอะไร ระหว่าง สัญชาติมาเลเซีย
หรือสัญชาติไทย เพื่อบันทึกลงในบัตรสมาร์ทการ์ดนั้น อาจยิ่งสร้างปัญหาตาามามากขึ้น
เพราะ หากประชาชนในพื้นที่เลือกที่จะใช้สัญชาติมาเลเซีย รัฐบาลจะทำอย่างไร
เขาสามารถจะอยู่ที่ประเทศไทยต่อไปได้หรือไม่ มีมาตรการใดรองรับ
ได้ประสานงานกับประเทศมาเลเซียเพื่อรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นอย่างไร
จะส่งคนเหล่านี้ไปประเทศมาเลเซียอย่างนั้นหรือ จะเป็นการผลักใสคนไทยด้วยกันหรือไม่
“หรือในอีกทางหนึ่ง หากประชาชนในพื้นที่เลือกสัญชาติไทย
รัฐบาลจะมีมาตรการรองรับประชาชนอย่างไร ในด้านอาชีพการทำงาน
เพราะการที่ประชาชนได้ถือ 2 สัญชาตินั้น
เนื่องจากต้องการไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียซึ่งมีงานรองรับและรายได้ที่ดีมากกว่า
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา
ประเทศไทยจะไม่รับคนที่เรียนจบมาจากโรงเรียนสอนศาสนาอย่างเดียวเข้าทำงาน
หากไม่มีวุฒิตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไม่สามารถทำงานในประเทศได้
จำเป็นต้องถือสัญชาติมาเลเซียเพื่อเข้าทำงานในประเทศมาเลเซีย
อันนี้รัฐบาลมีมาตรการอย่างไรให้ประชาชนมั่นใจบ้าง”
ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า การใช้สมาร์ทการ์ดจะกระทบความรู้สึกของประชาชนเป็นจำนวนมาก
การที่รัฐบาลจะนำมาใช้ในเวลานี้ต้องคิดอย่างรอบคอบ
รัฐบาลไม่ควรปฏิบัติกับประชาชนในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ในลักษณะที่แตกต่างจากชาวไทยคนอื่น
ไม่ควรทำให้เขารู้สึกว่าทำไมคนไทยด้วยกันไม่ไว้วางใจกัน
ยิ่งในเวลานี้ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลมีมาตรการใดรองรับหากเกิดปัญหาตามมาดังกล่าวข้างต้น
ยิ่งเป็นเรื่องน่ากลัวว่าปัญหาและความขัดแย้งอาจลุกลามและแก้ไขได้ยากมากขึ้น
..................................................
|