Go www.kriengsak.com ประวัติ ครอบครัว งานวิชาการ กิจกรรม Press Contact us ค้นหา



ตัดนายกฯจากการรักษาการ พ.ร.บ.งบเพิ่มเติม เหตุไม่โปร่งใส

 
..................................................

             เกรียงศักดิ์แปรญัตติ พ.ร.บ.งบเพิ่มประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปี 2548 ขอตัดนายกฯออกจากการรักษาการตามพ.ร.บ.นี้ เพราะให้อำนาจนายกฯมากเกินไป อำนาจซ้ำซ้อน ไม่โปร่งใส และไม่รอบคอบ รวมทั้งขอตัดงบฯ 3 รายการออกทั้งหมด เพราะไม่จำเป็นเร่งด่วน ไม่สอดคล้องสถานการณ์น้ำมันแพงและขาดดุลฯ

             การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป เมื่อวันพุธที่ 4 พฤษภาคม ได้มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548

             นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอแปรญัตติโดยแก้ไขความในมาตรา 6 ซึ่งระบุให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาการร่วมกัน โดยแก้เป็น ให้รมว. คลังเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวเพียงผู้เดียว การที่นายกฯเป็นผู้รักษาการตามพ.ร.บ.นี้เป็นการไม่เหมาะสม เนื่องจากจะทำให้นายกฯ มีอำนาจในการใช้งบประมาณ โดยไม่ต้องผ่าน มติ ครม. ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความโปร่งใสและความรอบคอบในการใช้งบประมาณของรัฐบาล

             “การให้อำนาจนายกรัฐมนตรีรักษาการตาม พ.ร.บ.นี้ เป็นการก้าวก่ายหน้าที่ในความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในเรื่องของการสั่งจ่ายงบประมาณ ทำให้เกิดการใช้อำนาจซ้ำซ้อน นายกฯมีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จในการใช้งบประมาณ และไม่มีการบันทึกการอนุมัติการใช้เงินงบประมาณในมติคณะรัฐมนตรี อาจทำให้นายกฯ สามารถตัดสินใจได้โดยลำพัง ก่อให้เกิดความไม่รอบคอบในการตัดสินใจใช้งบประมาณ เพราะขาดข้อมูล ความเห็น ข้อเสนอแนะ ซึ่งหากการตัดสินใจในการใช้งบประมาณผิดพลาด ย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศในภาพรวม” สส.ประชาธิปัตย์กล่าว

             นอกจากนี้ นายเกรียงศักดิ์ยังได้ขอแปรญัตติในมาตรา 4 โดยขอตัดงบประมาณ 3 รายการออกทั้งหมด ได้แก่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสำหรับผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านหรือชุมชน (SML) และค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนและความยากจนของประชาชน

             นายเกรียงศักดิ์ ได้ให้เหตุผลในการตัดงบฯทั้ง 3 รายการออกทั้งหมดว่า เป็นการใช้งบประมาณไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของหลักการจัดทำงบรายจ่ายเพิ่มเติม โดยทั้ง 3 รายการเป็นโครงการที่เริ่มมานานแล้ว สามารถกำหนดแผนการดำเนินและการใช้งบประมาณล่วงหน้าได้ ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักการของการจัดทำงบเพิ่มเติม ที่ควรเป็นไปเพื่อแก้ปัญหาจำเป็นเร่งด่วน หรือกรณีฉุกเฉิน
             
             “งบดังกล่าวยังไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งมีประเด็นที่จำเป็นและเร่งด่วนมากกว่า โดยเฉพาะราคาน้ำมันแพง ซึ่งทำให้หนี้กองทุนน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเริ่มปรากฏขึ้นแล้วในไตรมาสแรกของปีนี้ รัฐบาลควรจัดลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง และใช้งบประมาณสำหรับสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ แต่งบประมาณรายจ่ายทั้ง 3 รายการ ไม่ได้เป็นไปเพื่อการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนดังกล่าว” ส.ส. ประชาธิปัตย์กล่าว

 

 ..................................................