"เกรียงศักดิ์" โต้ วราเทพแจงคลุมเครือ
ให้อภิมหาอำนาจแก่นายกฯ รักษาการ พ.ร.บ.รายจ่ายเพิ่มเติม
..................................................
เกรียงศักดิ์กล่าวโต้
วราเทพชี้แจงคลุมเครือต่อประเด็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้น จากการที่นายกฯรักษาการใน
พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม พ.ศ. 2548 พ.ศ. …
ทั้งการให้อภิมหาอำนาจแก่นายกฯในการใช้งบประมาณ และความไม่รอบคอบในการใช้งบประมาณ
นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ กรรมการบริหารพรรค
และสมาชิกสภาผู้แทนแบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์
ชี้ประเด็นระหว่างการประชุมสภาสมัยสามัญ
วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2548
พ.ศ. … ว่า “ขอตัดนายกรัฐมนตรีออกจากการรักษาการตามพ.ร.บ.นี้
เนื่องจากเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ทำให้นายกฯมีอำนาจมากเกินไป อำนาจซ้ำซ้อน
เปิดช่องให้ใช้งบประมาณอย่างไม่โปร่งใส และไม่รอบคอบ”
ต่อมา นายวราเทพ รัตนากร รองประธานกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี
และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงว่า การให้นายกฯ รักษาการตาม พ.ร.บ.นี้มีความเหมาะสม
เพราะเป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2502 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6)
พ.ศ.2543 มาตรา 5
ที่ระบุให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ
นายเกรียงศักดิ์มีความเห็นว่า “รัฐบาลน่าจะทราบอยู่แล้ว่า พ.ร.บ.
ดังกล่าวมีช่องโหว่ที่ควรปรับปรุงแก้ไข เพราะการให้อำนาจนายกฯรักษาการ
จะทำให้เกิดการใช้อำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จในการเบิกจ่ายงบประมาณฯ
และการที่นายวราเทพกล่าวว่า การใช้อำนาจอย่างไม่เหมาะสมขึ้นอยู่กับพฤติกรรมนั้น
หากจะพิจารณาจากพฤติกรรมที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่านายกฯ
มีแนวโน้มของการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ
ซึ่งเห็นได้จากการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุม ครม.พ.ศ.....
ที่ระบุว่า กรณีจำเป็นฉุกเฉิน
นายกรัฐมนตรีสามารถเรียกประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องฉุกเฉินกับรัฐมนตรีบางคน
ไม่จำเป็นต้องเรียก ครม.ทั้งคณะ นอกจากนี้การให้นายกฯ รักษาการ
ซึ่งในอดีตอาจไม่เกิดข้อคำถามมาก
เนื่องจากรัฐบาลเป็นรัฐบาลผสมไม่สามารถใช้อำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จ
แต่ปัจจุบันรัฐบาลเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
ย่อมทำให้เกิดความกังวลเมื่อกฎหมายเปิดช่องให้นายกฯ มีอำนาจมากเกินไป”
“ส่วนประเด็น ที่นายวราเทพชี้แจงถึงการใช้อำนาจเบิกจ่ายงบประมาณของนายกฯ โดยไม่ผ่าน
มติ ครม. ว่า ‘ที่ผ่านมาการเบิกจ่ายงบส่วนใหญ่ นายกฯ
จะนำเรื่องเข้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี’ การกล่าวเช่นนี้มีความคลุมเครือ ซ่อนนัยว่า
ที่ผ่านมาอาจมีงบประมาณบางส่วนที่ไม่ผ่าน มติ ครม. แต่ใช้ดุลยพินิจของนายกฯ
ตัดสินใจอยู่ด้วย แม้นายวราเทพจะแก้แทนนายกฯในเรื่องทัวร์นกขมิ้นว่า
การเบิกจ่ายไม่ได้ใช้โดยดุลยพินิจของนายกฯเอง แต่เป็นไปคำร้องขอขอหน่วยราชการ
แต่ต้องไม่ลืมว่าการจัดสรรของรัฐบาลชุดนี้
ได้แบ่งงบไว้สำหรับงบฉุกเฉินไว้เป็นจำนวนมาก
ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้เป็นอำนาจของนายกฯ ที่สามารถเบิกจ่ายได้
โดยไม่จำเป็นต้องเป็นคำร้องขอหน่วยงานราชการ
ซึ่งอาจทำให้เกิดการนำงบประมาณไปใช้อย่างไม่รอบคอบ เพราะไม่ต้องผ่าน มติ ครม.“ ส.ส.
ปชป. กล่าว
..................................................
|