Go www.kriengsak.com ประวัติ ครอบครัว งานวิชาการ กิจกรรม Press Contact us ค้นหา


จี้ร่าง พ.ร.บ.สถิติ เปิดประตูเสรีภาพทางวิชาการ
..................................................


เกรียงศักดิ์ เสนอหน่วยงานจัดสรรงบวิจัยและมหาวิทยาลัยทุกแห่ง จำเป็นต้องมีเสรีภาพทางวิชาการ หากรัฐบาลส่งเสริมเสรีภาพทางวิชาการจริง ต้องยกเว้น ไม่ต้องแจ้งสำนักงานสถิติฯเมื่อจะเก็บข้อมูล

ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นที่รัฐบาลจะเสนอร่างพระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. …. เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาว่า เห็นด้วย หากรัฐบาลจะมีสำนักงานสถิติเป็นเครื่องมือให้หน่วยงานภาครัฐสำรวจข้อมูลทางสถิติได้สอดคล้องกับนโยบายและแผนการพัฒนาประเทศ แต่เสนอว่า ควรกำหนดเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่ตอบสนองนโยบายรัฐบาลโดยตรงเท่านั้นที่ต้องแจ้งให้สำนักงานสถิติแห่งชาติทราบเมื่อต้องการเก็บข้อมูล ไม่ควรเหมารวมหน่วยงานรัฐทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพทางวิชาการไม่ควรอยู่ภายใต้กฎหมายนี้ อาทิ หน่วยงานจัดสรรงบวิจัย และมหาวิทยาลัยทุกแห่ง

“ในมาตรา 4 ของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้ให้นิยามคำว่า หน่วยงาน หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นของรัฐ ทำให้รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรทุนวิจัย อาทิ สำนักงานส่งเสริมทุนวิจัย (สกว.) ซึ่งเป็นองค์การมหาชน และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานสภาวิจัยแห่งชาติ และรวมถึงมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐด้วย ซึ่งรัฐมนตรีมีอำนาจและหน้าที่กำกับดูแล แม้ไม่ได้เป็นส่วนราชการก็ตาม”

ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า การเก็บข้อมูลสถิติตามร่าง พ.ร.บ.สถิติ ฉบับนี้ ต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทของสำนักงานสถิติเท่านั้น ถ้าไม่สอดคล้องย่อมจะไม่ได้รับการพิจารณา ซึ่งหมายความว่า หน่วยงานเหล่านี้จะขาดความเป็นอิสระ ตกอยู่ภายใต้คำสั่งและการชี้นำของรัฐบาล เช่น หน่วยงาน สกว. วช. แม้ไม่ได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติด้วยตนเอง แต่ย่อมถูกควบคุมทางอ้อม เพราะเป็นผู้จัดสรรทุนวิจัยให้แก่หน่วยงานอื่น ซึ่งต้องดำเนินการตามมาตรา 8 ที่กำหนดไว้ว่า หน่วยงานต้องจัดทำสถิติให้เป็นไปตามแผนแม่บทของสำนักงานสถิติแห่งชาติ หากไม่ปฏิบัติตาม ให้สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อสั่งการตามที่เห็นสมควร

“ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง หน่วยงานเหล่านี้ จึงจำเป็นต้องให้ทุนเฉพาะเรื่องที่สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของรัฐบาล มากกว่าหัวข้อที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ สิ่งที่ตามมาคือ ประชาชนจะถูกครอบงำทางความคิด งานสำรวจวิจัยขาดความหลากหลาย รวมทั้งอาจได้รับรู้เพียงข้อมูลที่สนับสนุนนโยบายของรัฐมากกว่ารับรู้ความจริง ทั้งที่ในความเป็นจริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรทุน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีความเป็นอิสระ ไม่ควรอยู่ภายใต้การครอบงำของใคร เพื่อให้การจัดสรรงบมีความเป็นธรรม มีเสรีภาพในการจัดสรร และสะท้อนการส่งเสริมเสรีภาพทางวิชาการ นอกเหนือจากในกรอบแผนแม่บทตามที่รัฐบาลกำหนดเท่านั้น ซึ่งทุกประเทศจะบริหารจัดการโดยองค์คณะบุคคลที่ปลอดจากอิทธิพลของรัฐ”

ส.ส.ปชป.กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของมหาวิทยาลัย ถือเป็นเรือนเพาะชำทางความคิด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเป็นแหล่งเสรีภาพทางวิชาการ ไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำและการชี้นำทางความคิด มหาวิทยาลัยควรมีเสรีภาพในการกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะทำการสำรวจข้อมูล ไม่จำเป็นที่จะต้องยื่นต่อสำนักงานสถิติ สามารถดำเนินการจัดทำข้อมูลสถิติ ทำการสำรวจวิจัยด้วยตนเอง อันจะช่วยให้เกิดความหลากหลายทางวิชาการ เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากกว่าการทำตามแผนแม่บทของสำนักงานสถิติแห่งชาติเท่านั้น ซึ่งอาจไม่ครอบคลุมในทุกประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ
“การเก็บข้อมูลสถิติตามแผนแม่บท ควรควบคุมเฉพาะหน่วยงานของรัฐโดยตรงเท่านั้น ไม่ควรครอบคลุมถึงหน่วยงานที่จำเป็นต้องมีเสรีภาพทางความคิด เสรีภาพในการดำเนินงาน เสรีภาพที่จะไม่ถูกคุกคามและแทรกแซงทั้งทางตรงและทางอ้อม หากรัฐบาลเปิดใจกว้างเช่นนี้ จึงเรียกว่า กล้าหาญในการแสดงความจริงใจว่าไม่ต้องการเข้าแทรกแซง แต่ยอมรับในเสรีภาพอย่างมีศักดิ์ศรีของนักวิชาการที่มีอิสระในการกำหนดทางเลือกของตนเอง โดยไม่อยู่ภายใต้การครอบงำของใคร” ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวในตอนท้าย
 

 ..................................................