Go www.kriengsak.com ประวัติ ครอบครัว งานวิชาการ กิจกรรม Press Contact us ค้นหา


รัฐบาลวาดฝัน : เชิญต่างชาติร่วมลงทุนฯ ห่างไกลความจริง
..................................................

 

เกรียงศักดิ์ชี้ รัฐบาลวาดฝันเชิญชวนต่างชาติร่วมลงทุนเมกะโปรเจกต์ แลกกับสินค้าไทย ห่างไกลความจริง ขาดความชัดเจนทั้งด้านงบประมาณการก่อสร้าง และรูปแบบการก่อสร้าง

ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนฯ คณะกรรมการบริหาร และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุม Thailand: Partnership for Development ที่นายกฯ จัดขึ้นเพื่อเชิญชวนต่างชาติร่วมลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ โดยเงินลงทุนส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดจะมาจากการแลกเปลี่ยนสินค้าในระบบบาร์เตอร์เทรด ว่าเป็นแนวทางที่ดูเหมือนดี แต่อาจทำไม่ได้ในทางปฏิบัติ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตต่อการนำแนวคิดดังกล่าวมาใช้

“ประการแรก รัฐบาลขาดความชัดเจนเกี่ยวกับงบประมาณการก่อสร้าง การที่รัฐบาลเสนอแนวทางการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้า ว่าการอุดหนุนทางการเงินทั้งหมด หรือบางส่วน จะใช้การแลกเปลี่ยนสินค้าในระบบบาร์เตอร์เทรด แนวคิดนี้แสดงให้เห็นความจริงที่ว่า รัฐบาลขาดงบประมาณในการลงทุนก่อสร้าง รัฐบาลจึงไม่มีเงินลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าตามที่ได้หาเสียงไว้ การใช้วิธีแลกเปลี่ยนสินค้าจึงเป็นความพยายามหาทางออกในการหาเม็ดเงินมาลงทุน ด้วยเงินลงทุนจำนวนมากถึง 1.8 ล้านล้านบาท”

“การลงทุนในการโครงการรถไฟฟ้า 5.5 แสนล้านบาท หากรัฐบาลจะใช้เพียงการแลกสินค้าคงเป็นไปได้ยาก เพราะที่ผ่านมา 5 ประเทศ คือ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีรถไฟฟ้า ได้เคยออกมาปฏิเสธแล้วว่า วิธีการนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ เมื่อต่างประเทศไม่ยอมรับวิธีการแลกเปลี่ยนสินค้า รัฐบาลจะนำงบประมาณมาจากแหล่งใด”
 
“หากรัฐบาลต้องการแลกยางพารากับรถไฟฟ้า ตามที่นายกกล่าวไว้เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม ประเทศที่นำเข้ายางพาราจากไทยมากที่สุดคือประเทศจีน แต่ประเทศจีนไม่น่าจะมีเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่ดีที่สุด เพราะจีนเพิ่งจะมีรถไฟฟ้าก่อนหน้าประเทศไทยไม่กี่ปีเท่านั้น”

“แต่หากมีบางประเทศที่ยินดีก่อสร้างรถไฟฟ้าในประเทศไทย โดยแลกเปลี่ยนกับสินค้าของไทย แล้วรัฐบาลจะนำงบประมาณและปัจจัยการผลิตจากแหล่งใด เพื่อมาลงทุนผลิตสินค้าส่งให้กับต่างประเทศ ในเมื่อรัฐบาลไม่เคยเป็นผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวมาก่อนเลย แต่หากรัฐบาลจะสนับสนุนให้เอกชนผลิต ใครจะเป็นผู้ที่จ่ายค่าสินค้าให้กับเอกชนที่ผลิตสินค้าเพื่อนำไปแลกรถไฟฟ้า“

“ประการที่สอง รัฐบาลขาดความชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบการก่อสร้าง การที่รัฐบาลเชิญทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยมาเพื่อปรึกษาหารือ และจะเสนอให้บริษัทต่างชาติยื่นข้อเสนอโครงการเข้ามาร่วมประมูลนั้น ได้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบการก่อสร้างรถไฟฟ้า เพราะนายกฯยังไม่มีข้อสรุปว่าการก่อสร้างในแต่ละเส้นทางจะดำเนินการในรูปแบบใด โมโนเรล (Monorail) ไลท์เรล (Light Rail) เฮฟวี่เรล (Heavy Rail) หรือบีอาร์ที (Bus Rapid Transport - BRT)”

“ประเด็นที่น่าสงสัย คือในช่วงเวลาที่รัฐบาลเปลี่ยนนโยบายกลับไปกลับมา จากการก่อสร้างรถไฟฟ้า 7 สาย เป็น 5 สาย ก่อนที่จะกลับมาเป็น 10 สายนั้น รัฐบาลทำอะไรอยู่ รัฐบาลได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการแล้วหรือไม่ หากโครงการมีความเป็นไปได้ ทำไมจึงยังไม่มีรูปแบบโครงการออกมา การประกาศแนวคิดใหม่นี้จึงอาจเป็นเพียงการหาประเด็นเพื่อถ่วงเวลาการก่อสร้างรถไฟฟ้าออกไปเท่านั้น”
“นอกจากนี้ หากรัฐบาลต้องการจะให้ต่างชาติเสนอโครงการเข้ามาประมูลจริง ประเด็นที่น่ากังวลคือ ในเมื่อประเทศไทยไม่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีของต่างชาติ รัฐบาลจะใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสินใจว่าควรจะก่อสร้างรถไฟฟ้ารูปแบบใด การเลือกลงทุนตามข้อเสนอของต่างชาติจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่และคุ้มค่าที่สุดหรือไม่ และการตัดสินใจจะมีความโปร่งใสหรือไม่ นอกจากนี้ เมื่อรูปแบบการก่อสร้างยังไม่มีความชัดเจน โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการเมื่อใดและจะก่อสร้างเสร็จได้เมื่อใด” ส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวสรุป
 

 ..................................................