ดร.เกรียงศักดิ์
เจริญวงศ์ศักดิ์
รองประธานคณะทำงานเศรษฐกิจ
พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง
กรณี ครม.
มีมติให้กระทรวงการคลังเพิ่มทุนในธนาคารทหารไทย
โดยขายหุ้น อสมท.ให้ธนาคารออมสิน
สะท้อนพฤติกรรม
อุ้มต่างชาติ
เอาเปรียบคนจน
ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า
การที่กระทรวงการคลังขายหุ้น
อสมท.ให้ธนาคารออมสิน
แล้วนำเงินที่ได้จำนวน 3,015
ล้านบาทไปซื้อหุ้นบุริมสิทธิเพื่อเพิ่มทุนให้ธนาคารทหารไทย
โดยมีสัญญาว่ากระทรวงการคลังจะซื้อหุ้นคืนในเวลา
3 ปี หรือพูดให้เข้าใจง่าย
คือ
การที่ธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้ธนาคารทหารไทย
โดยที่กระทรวงการคลังนำหุ้น
อสมท.มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
พฤติกรรมเช่นนี้ นับเป็นการแย่งเงินออมที่ธนาคารออมสินควรจะใช้ในการปล่อยกู้ให้คนยากจน
เพื่อเอาไปอุ้มกิจการธนาคารทหารไทย
ซึ่งถึงแม้ว่ากระทรวงการคลังจะถือหุ้นในธนาคารทหารไทยถึงร้อยละ
31.2 แต่ต้องไม่ลืมว่า
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีกร้อยละ
30.8
เป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ
ที่เหลือเป็นนักลงทุนไทยและต่างชาติ
ที่ถือได้ว่าเป็นผู้มีอันจะกิน
(ตารางที่ 1)
การตัดสินใจดึงเงินจากธนาคารออมสินไปอุ้มธนาคารทหารไทย
สะท้อนให้เห็นว่า
แท้ที่จริงแล้วรัฐบาลให้ความสำคัญกับคนยากจนจริงหรือไม่
ถึงแม้ว่าธนาคารออมสินจะได้อัตราผลตอบแทนของการกู้มากกว่าร้อยละ
9.99 ต่อปี (ตารางที่ 2)
แต่การที่เงินจำนวนถึง 3,015
ล้านบาทถูกกู้ออกไปจากธนาคารออมสินเป็นเวลาอย่างน้อย
3 ปี
จะทำให้ประชาชนจำนวนมากขาดโอกาสในการได้รับเงินกู้
ทั้งนี้หากสมมติว่าธนาคารออมสินนำไปปล่อยกู้ให้กับประชาชนคนละ
3 หมื่นบาท
จะสามารถให้เงินกู้แก่ประชาชนได้ถึง
1 แสนคนทีเดียว
รองปธ.คณะทำงานศก.
ปชป. กล่าวต่อไปว่า
การดำเนินการดังกล่าวยังทำให้คนยากจนเสียเปรียบในแง่ของต้นทุนการกู้เงิน
ทั้งนี้หากรัฐบาลนำเงิน 3,015
ล้านบาทของธนาคารออมสินไปปล่อยกู้ในโครงการธนาคารประชาชน
คนจนต้องเสียต้นทุนในการกู้เงินร้อยละ
1 ต่อเดือน แต่หากนำเงิน
3,015
ล้านบาทไปซื้อหุ้นบุริมสิทธิของธนาคารทหารไทยนั้น
ธนาคารทหารไทยอาจจะไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเลยก็เป็นได้
เหตุที่กล่าวเช่นนี้
เพราะธนาคารทหารไทยมียอดขาดทุนสะสม
ณ สิ้นปี 2548 ถึง
4.78
หมื่นล้านบาท
และหากธนาคารมีกำไรสุทธิ 7.8
พันล้านบาทต่อปี
เท่ากับกำไรสุทธิในปี 2548
ธนาคารจะต้องใช้เวลาถึง 6 ปี
กว่าจะล้างยอดขาดทุนสะสมได้หมด
หมายความว่า
ธนาคารจะยังไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เลยในตลอดช่วง
6 ปีข้างหน้า
ผมจึงไม่เข้าใจว่า
เหตุใดรัฐบาลจึงไม่เลือกวิธีการอื่นที่ไม่ต้องไปรับความเสี่ยงแทนภาคเอกชน
หรือหากมีความจำเป็นจริง ๆ
ที่ต้องเพิ่มทุน
ในฐานะที่กระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ในธนาคารทหารไทย
เหตุใดจึงไม่เลือกกู้จากสถาบันการเงินจำนวนมากที่พร้อมจะให้กู้ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าร้อยละ
9.99
แต่กลับใช้วิธีทำร้ายคนยากจน
ดร.เกรียงศักดิ์
กล่าวทิ้งท้าย
ตารางที่ 1
โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในธนาคารทหารไทย
ณ วันที่ 7 เมษายน 2549
ลำดับ |
ชื่อ |
จำนวนหุ้น
|
% |
1 |
กระทรวงการคลัง |
4,772,574,627 |
31.2 |
2 |
DBS Bank A/C 003
|
2,460,078,607 |
16.1 |
3 |
กลุ่มกองทัพ
*
|
721,454,430 |
4.7 |
4 |
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์
จำกัด |
656,180,947 |
4.3 |
5 |
N.C.B. Trust Limited
- UBS AG London BR-IPB
Client AC
|
578,630,668 |
3.8 |
6 |
NORBAX INC., 18 |
527,198,600 |
3.4 |
7 |
Chase Nominees
Limited 1
|
443,648,200 |
2.9 |
8 |
Little Down Nominees
Limited 5
|
441,372,600 |
2.9 |
9 |
บริษัท
ไทยประกันชีวิต จำกัด |
294,660,033 |
1.9 |
10 |
State Street Bank
and Trust Company |
210,814,877 |
1.7 |
*
ประกอบด้วย กองทัพบก
กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และ
บริษัท อาร์ทีเอ
เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด
(มหาชน)
ตารางที่ 2
อัตราผลตอบแทนที่ธนาคารออมสินจะได้รับ
|
ร้อยละต่อปี
|
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ
12
เดือนของธนาคารออมสิน |
5 |
ค่าบริหารจัดการ |
1.66 |
อัตราเงินปันผลของหุ้น
อสมท. |
3.33 |
รวม
|
9.99
* |
หมายเหตุ
: *
อัตราผลตอบแทนนี้ยังไม่รวมกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น
หากในอนาคต
ธนาคารออมสินขายหุ้น อสมท.
คืนให้กระทรวงการคลังในราคาตลาด