Go www.kriengsak.com ประวัติ ครอบครัว งานวิชาการ กิจกรรม Press Contact us ค้นหา


เกรียงศักดิ์ ชี้ รัฐบาลไม่มีแผนแก้หนี้กองทุนน้ำมัน
 ..................................................

นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร กรรมการบริหาร และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้แสดงความชัดเจนเกี่ยวกับเหตุผลของการลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งเป็นการนำภาษีของประชาชนมาใช้เพื่ออุดหนุนราคาน้ำมัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลปฏิเสธที่จะนำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม 5 หมื่นล้านบาทมาชำระหนี้กองทุนน้ำมัน รวมทั้งยังขาดแนวทางที่ชัดเจนในการปลดภาระหนี้กองทุนน้ำมัน

“ในรายการวิทยุวันนี้ ท่านนายกฯไม่ได้ตอบคำถามของผมที่ได้ถามผ่านสื่อไปว่า ทำไมจึงไม่ทยอยลอยตัวราคาน้ำมันมาตั้งแต่ต้นปี และเหตุใดจึงไม่หาทางลดภาระหนี้ของกองทุนน้ำมันเมื่อมีรายได้ที่รัฐจัดเก็บได้เกินกว่าเป้าหมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลมีความผิดพลาดในการคาดการณ์ภาวะราคาน้ำมัน และไม่ได้มีแผนการลอยตัวราคาน้ำมันอย่างจริงจัง แต่มาตรการที่ประกาศใช้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดจากการที่กองทุนน้ำมันเข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว ไม่สามารถอุดหนุนต่อไปได้ จึงต้องดึงรายได้จากภาษีมาช่วยอุดหนุนราคาน้ำมันต่อไปอีก”

“นายกฯสามารถให้รายละเอียดได้ว่า ใครได้ตำแหน่งนางงามจักรวาลและรองนางงาม แต่กลับไม่มีรายละเอียดของแผนในการแก้ปัญหาหนี้กองทุนน้ำมันอย่างเบ็ดเสร็จ ไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลจะชำระหนี้ด้วยวิธีการใด แต่ละวิธีเป็นเงินเท่าไร และเมื่อใดจะชำระหนี้ได้หมด มาตรการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน จึงเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และเตะโด่งปัญหาออกไปข้างหน้าเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นหากรวมภาระหนี้ของกองทุนทั้งหมด เมื่อรวมภาระการอุดหนุนดีเซลจนถึงสิ้นปีนี้อีกประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท และดอกเบี้ยพันธบัตร 5 ปีอีก 1.55 หมื่นล้านบาท ยอดหนี้กองทุนน้ำมันที่ต้องชำระทั้งสิ้นจะสูงถึง 1.085 แสนล้านบาท”

“ปัญหาหนี้กองทุนน้ำมันเป็นปัญหาที่วิกฤตแล้ว รัฐบาลควรรีบเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อส่งสัญญาณให้ประชาชนทราบและร่วมกันรับภาระ ผมขอเสนอให้รัฐบาลเร่งลอยตัวราคาน้ำมันให้เร็วที่สุดภายใน 3 เดือน เนื่องจากหากเลยไปจากช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งราคาเชื้อเพลิงจะสูงขึ้นอีกครั้ง การลอยตัวยังเป็นการลดภาระหนี้ของกองทุน และช่วยแก้ปัญหาการขาดดุลที่เกิดจากการนำเข้าน้ำมัน”
“สำหรับหนี้กองทุนน้ำมันที่สูงมากแล้ว รัฐควรนำรายได้จากภาษีสรรพสามิต 1.4 หมื่นล้านบาท ที่รัฐบาลจะลดภาษีให้ผู้ใช้น้ำมันโดยคาดว่าจะยังเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย และเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ที่มีอยู่ในงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ของกองทุนน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลอาจจะขึ้นภาษีน้ำมันเบนซินเพื่อชดเชยรายได้แทน และควรวางแผนให้กองทุนน้ำมันนำรายได้มาชดใช้คืนคลังในอนาคตด้วย”

“ส่วนผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลควรกำหนดมาตรการลดภาษีนิติบุคคล เพื่อลดต้นทุนของผู้ผลิตสินค้าบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตอาหาร หรือสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าที่จำเป็นของประชาชน ซึ่งนับเป็นแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่ตรงจุดมากกว่า และทำให้ราคาน้ำมันสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง อันจะเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดดุล และลดภาระหนี้กองทุนน้ำมันอีกด้วย”


 

 ..................................................