Go www.kriengsak.com ประวัติ ครอบครัว งานวิชาการ กิจกรรม Press Contact us ค้นหา

 


ติงทีโออาร์รถไฟฟ้า 3 สาย : ไม่เหมาะสม ซ้ำซ้อน ไม่โปร่งใส

..................................................

 

ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ รองประธานคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสม ความซ้ำซ้อน และความโปร่งใส ของการจ้างออกแบบควบคู่ไปกับการก่อสร้างในโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย

รอง ปธ.คณะทำงาน ศก. ปชป. ตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมของการจ้างออกแบบควบคู่ไปกับการก่อสร้าง ซึ่งเหมาะสมกับโครงการที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วแต่ใช้เวลาก่อสร้างที่ยาวนาน เพราะวิธีการนี้จะมีความยืดหยุ่นและจะทำให้ได้เทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างไรก็ตาม มีเพียงระบบรถไฟฟ้าเท่านั้นที่เทคโนโลยีน่าจะเปลี่ยนแปลงเร็ว แต่งานด้านโยธาและโครงสร้างนั้นเทคโนโลยีไม่เปลี่ยนแปลงเร็วมากนัก ความเห็นของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เสนอว่า ควรแยกงานโยธาออกจากงานระบบรถไฟฟ้า จึงเป็นข้อเสนอที่มีเหตุผล

“ผมเห็นว่า รัฐบาลควรออกแบบอย่างชัดเจนสำหรับงานโยธาและโครงสร้าง และเปิดให้มีความยืดหยุ่นได้ในงานระบบรถไฟฟ้า แต่ในร่างเอกสารประกวดราคาโครงรถไฟฟ้าทั้ง 3 สาย กลับเปิดกว้างมากเกินไป โดยได้ให้ผู้ยื่นประมูลเสนอได้แม้กระทั่งเส้นทางใหม่ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่รัฐบาลควรจะมีความชัดเจนแล้ว”

ดร.เกรียงศักดิ์ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความซ้ำซ้อนของการดำเนินงาน เนื่องจากในรัฐบาลทักษิณ 1 ได้อนุมัติดำเนินการออกแบบรายละเอียด และก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางใหญ่ - ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ใช้งบไปแล้วประมาณ 3 ร้อยล้านบาท ในการจ้างที่ปรึกษาศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบรายละเอียด และจัดทำเอกสารประกวดราคาโครงการฯ  

“คำถามคือ ในเมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้มีการออกแบบในรายละเอียดและจัดทำเอกสารประกวดราคาโครงการฯ ไปแล้ว เหตุใดรัฐบาลจึงใช้วิธีการจ้างออกแบบควบคู่ไปกับการก่อสร้างในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงอีก การเลือกรูปแบบการดำเนินการดังกล่าวเป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อน และทำให้เกิดการสิ้นเปลืองงบประมาณหรือไม่”

อดีต ส.ส. ปชป. ยังตั้งข้อสังเกตถึงความโปร่งใสของโครงการ เพราะเอกสารการประมูลกำหนดขอบเขตงานที่กว้างขวางมาก โดยเปิดกว้างให้ผู้ที่ยื่นประมูลสามารถเสนอเงื่อนไขในการออกแบบและก่อสร้างได้อย่างยืดหยุ่นมาก ประกอบกับการพิจารณาคัดเลือกผู้ประมูลโดยที่ยังขาดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน แต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น ทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่า การประมูลโครงการนี้จะโปร่งใสหรือไม่

“ข้อเสียสำคัญของวิธีการจ้างแบบนี้ คือผู้ว่าจ้างมีความสามารถในการควบคุมการออกแบบและควบคุมคุณภาพลดลง และความจำกัดในการมีส่วนร่วมของประชาชนตั้งแต่กระบวนการออกแบบ ยิ่งไปกว่านั้น การที่รัฐบาลที่มีข้อกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างหนาหู เป็นผู้ดำเนินการในช่วงที่ยังไม่มีรัฐสภาเข้ามาตรวจสอบ ทำให้เกิดความเสี่ยงว่า การก่อสร้างโครงการนี้จะมีคุณภาพหรือไม่ และจะมีการเอื้อประโยชน์ต่อผู้รับเหมาหรือไม่”

“แม้วิธีการนี้มีหลักการที่ดี แต่การนำมาใช้ ต้องดูความเหมาะสมเป็นรายโครงการ และต้องตั้งคำถามกับตนเองว่า สถานะของรัฐบาลในเวลานี้เหมาะที่จะเป็นผู้ดำเนินโครงการนี้ ด้วยวิธีการนี้หรือไม่” ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าว