ทรท.โวจี้ถูกจุดคนไทยคาร์บ๊องทำเรตติ้งพุ่ง |
โดย ผู้จัดการรายวัน |
30 สิงหาคม
2549 22:12 น. | |
ผู้จัดการรายวัน -
"นายกฯเถื่อน"ตีบทวิตกจริตถูกลอบสังหารขึงขังต่อ
เป็นเอาหนักขนาดรถพาหนะยังแปลงเป็นรถเถื่อนปลดป้ายทะเบียนทิ้ง
หลอกคนติดตาม ขณะเดียวกันยังต้อบหลบๆ ซ่อนๆ
ยกเลิกกำหนดการเป็นว่าเล่น ประธาน ส.ส.ทรท.
รับหน้าชื่นตาบานคาร์บ๊องส์ ทำชาวบ้านสงสาร
เรตติ้งแม้วกระฉูดเชื่อเลือกตั้งคะแนนพุ่งแน่ หนุน สมคิด
นั่งนายกฯ ด้านลูกกะโล่ หยาม พัลลภ อกตัญญู
ทรท.หนุนให้ใหญ่ยังไปคบพันธมิตรฯ แถมแว้งกัด "หมอประเวศ"
กล่าวหาหนุนลอบสังหารนายกฯ ปชป.เหน็บ
ทรท.เปลี่ยนจากพรรคตั้งบริษัทสร้างหนังแข่งกับ
เสี่ยเจียง
จะดีกว่า ความเคลื่อนไหวของ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี วานนี้ (30
ส.ค.) ยังคงมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ตลอดเส้นทางจากบ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์ 69
ถึงทำเนียบรัฐบาล โดยใช้รถเบนซ์กันกระสุนสีดำ
หมายเลขทะเบียน ษห 3834 กรุงเทพมหานคร
เป็นพาหนะในการเดินทาง สลับกับรถเบนซ์สีดำ หมายเลขทะเบียน
ษห 3836
เพื่อใช้วิ่งหลอกในขบวนเดินทาง โดยพ.ต.ท.ทักษิณ
เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลเวลา 09.20 น.
เพื่อเป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมการในการประชุม NAM
Summit ครั้งที่ 14 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
สมัยสามัญ ครั้งที่ 6 ที่ห้องสีเขียว
ตึกไทยคู่ฟ้า รายงานข่าวแจ้งว่า
หลังจากขบวนของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าถึงทำเนียบฯ
ทีมรักษาความปลอดภัย รักษาการนายกฯ
ได้ปลดป้ายทะเบียนด้านหน้า และด้านหลังของรถเบนซ์ทั้ง 2
คันออก โดย พ.ต.ท.ทักษิณ
ได้ใช้เวลาทั้งวันในการปฏิบัติภารกิจภายในทำเนียบฯ
จนกระทั่งเวลา 15.45 น. พ.ต.ท.ทักษิณ
ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ
โดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถเบนซ์ทั้ง 2 คัน
โดยก่อนออกเดินทางทีมรักษาความปลอดภัยได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า
รักษาการนายกฯ ขอ ว.5 (ขอส่วนตัว) โดยมีรายงานข่าวว่า
พ.ต.ท.ทักษิณ
ได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวย่านราชประสงค์ รายงานข่าวแจ้งว่า
การปลดแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ทั้ง 2 คันออก
ถือเป็นแผนการรักษาความปลอดภัยของนายกฯ ซึ่งเมื่อครั้งที่
พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางตรวจราชการในพื้นที่ 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมา
ก็เคยใช้แผนดังกล่าวเช่นกัน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเดิม
พ.ต.ท.ทักษิณ
มีกำหนดการเดินทางไปประชุมพบปะกับข้าราชการกระทรวงพาณิชย์
ที่กระทรวงพาณิขย์ ในเวลา 14.00 น. แต่ได้ยกเลิก
ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ยกเลิกแบบกระทันหัน
ทั้งมีมีรายงานว่า หน่วยล่วงหน้าของรักษาการนายกฯ
ไปดูสถานที่ประชุม ซึ่งเป็นอาคารกรมการค้าต่างประเทศ ชั้น
16 ที่จัดไว้ต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ
ไม่สะดวกในการอารักขาดูแลความปลอดภัย รวมทั้งอาคารอื่นๆ
ก็ไม่เหมาะสม อาจทำให้มาตรการรักษาความปลอดภัยไม่ครอบคลุม
จึงเสนอให้ยกเลิก **นางรำแห้วฟ้อนอวยพร"ทักษิณ" สำหรับความเคลื่อนไหวที่ที่ทำการพรรคไทยรักไทย
ย่านถ.เพชรบุรีตัดใหม่ วันเดียวกัน
กลุ่มผู้สนับสนุนอ้างว่าชื่อกลุ่มรักสันติสามัคคีประชาธิปไตย
โดยนายมงคล เสมอภาพ อ้างว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม นำนางรำประมาณ
20 คน มายังที่ทำการพรรคไทยรักไทย
เพื่อมามอบดอกไม้และรำอวยพรเพื่อให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ
แต่นายสุธีร์ ประภารัศมี
เจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารและความปลอดภัย พรรคไทยรักไทย
ออกมาสั่งห้าม โดยแจ้งว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงที่
พ.ร.ฎ.เลือกตั้งมีผลบังคับใช้แล้ว
หากอนุญาตให้ทำกิจกรรมบริเวณที่ทำการพรรค
อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งได้
จึงทำให้คณะนางรำจึงต้องเดินทางกลับทั้งที่ยังไม่ได้ทำกิจกรรมใด
ๆ ส่วนการรักษาความปลอดภัยบริเวณที่ทำการพรรคนั้น
ยังคงมีเจ้าหน้าที่
ตำรวจกระจายกำลังตรวจตราความเรียบร้อยทั้งภายในและนอกอาคารอย่างเข้มงวด
ขณะเดียวกันก็ยังคงใช้กระจกส่องหาวัตถุระเบิดตรวจรถยนต์ทุกคันที่ผ่านเข้าออกอย่างละเอียด **หลังเลือกตั้งรู้"แม้ว"เว้นวรรคหรือไม่ นายสมชาย
สุนทรวัฒน์ รักษาการ รมช.มหาดไทย ประธาน ส.ส.พรรคไทยรักไทย
กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุว่า
อาจจะต้องเลื่อนวันเลือกตั้งจากกำหนดการเดิมวันที่ 15 ต.ค.
ออกไป ว่า หากจะมีการเลื่อนจริงคงเลื่อนออกไปไม่มากนัก
ไม่ถึงกับทำให้เกิดการปลดล็อก 90 วัน จนทำให้
ส.ส.ย้ายพรรคได้ อย่างไรก็ตาม
หากต้องเลื่อนออกไปจนสามารถปลดล็อก 90 วันได้ ก็เชื่อว่า
อดีต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทย จะไม่ย้ายพรรค
และการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปคงไม่ทำให้เกิดความรุนแรงระหว่างกลุ่มที่สนับสนุน
และต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ
เพราะตำรวจดูแลอย่างดี นายสมชาย
ยังกล่าวถึงกรณีนายปองพล อดิเรกสาร
รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
เว้นวรรคทางการเมือง เพื่อรักษาสถานะของพรรคไทยรักไทย ว่า
ในที่ประชุมพรรค วันที่ 29 ส.ค. ไม่ได้หารือเรื่องนี้
ส่วนตัวเห็นว่า นายปองพล มีสิทธิที่จะคิดในฐานะอดีต
ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ขณะนี้ยังไม่ควรพูดอะไร เพราะ
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นหมายเลข 1 ของพรรค
คาดว่าหลังจากการเลือกตั้งแล้วคงมีความชัดเจน **หนุน"สมคิด"เหมาะนั่งนายกฯ ส่วนที่ที่หลายฝ่ายมองว่า
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ
รมว.พาณิชย์ น่าจะมีความเหมาะสมที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี
หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เว้นวรรคทางการเมืองนั้น นายสมชาย
กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายสมคิด
เคยพูดว่านายกรัฐมนตรีมีบุญคุณกับนายสมคิด มาก
หากต้องการให้นายสมคิด อยู่ในตำแหน่งใด
ขอให้สั่งมา ผมมั่นใจว่า
แม้นายสมคิด จะไม่มี ส.ส.ในกลุ่มในก๊วน แต่เชื่อว่า
แต่ละกลุ่มต่างเชื่อมือ และให้ความเคารพนายสมคิด มาก
เนื่องจากทำงานคู่บุญกับนายกรัฐมนตรีมาตลอด นอกจากนี้
ยังมีโอกาสกำหนดนโยบายต่าง ๆ ร่วมกันมาตลอด
ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี
และมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ **โวคาร์บ๊องทำทรท.คะแนนพุ่ง ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์
เดินหน้าหาเสียงอยู่ในขณะนี้อย่างต่อเนื่อง
จะทำให้พรรคไทยรักไทยหาเสียงล่าช้ากว่าหรือไม่ นายสมชาย
กล่าวว่า พรรคไทยรักไทย ไม่ได้ล่าช้า
เพราะมีแผนเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว
ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะได้มีโอกาสคิดและเลือก "ยืนยันว่า
พรรคไทยรักไทยมั่นใจเหลือเกินถึงพันเปอร์เซ็นต์ ว่า
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมรถขนระเบิดได้นั้น
ไม่ได้เป็นการจัดฉาก หรือสร้างสถานการณ์
เชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่
สงสารนายกรัฐมนตรีมากขึ้น
และคะแนนเสียงของพรรคน่าจะดีขึ้นด้วย
เพราะคนไทยเป็นคนขี้สงสาร แต่ผมได้ย้ำกับอดีต
ส.ส.ในพรรคว่า อย่าใช้จุดนี้เป็นจุดขายในการหาเสียง
หรือนำไปโจมตีใคร" **จวก"พัลลภ"อกตัญญูทรท. ด้าน
ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายและการเมือง
พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการสั่งปลด พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี
อดีตรอง ผอ.กอ.รมน.ว่า ที่ผ่านมา พล.อ.พัลลภ
อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย ได้รับโอกาสจากหัวหน้าพรรค
ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญมาตลอด ได้อะไรจากพรรคมามาก
โดยเฉพาะตำแหน่ง รองผอ.กอ.รมน. ทำให้มีชื่อเสียง ทั้งๆ
ที่ตำแหน่งดังกล่าวคนในพรรคมีคนที่เหมาะสมเยอะแยะ
มาวันนี้ท่านถูกปลดออกจากตำแหน่ง
แต่กลับมาพูดจาทำให้เกิดความ
เสียหายต่อหัวหน้าพรรค "หลายเดือนที่ผ่านมาท่านมีความเคลื่อนไหวเป็นปฏิปักษ์ต่อ
พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนทำลายพรรคของท่านเอง
โดยไปร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งนายกฯเองก็ปล่อยวางมาตลอด
แต่เมื่อมาถึงกรณีลอบวางระเบิด
มันร้ายแรงมากจึงมีการสั่งปลด" ร.ท.กุเทพ
กล่าวว่าไม่อยากให้ท่านถูกกล่าวหาว่าเป็นคนอกตัญญู
เพราะมาทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ
รวมทั้งการกล่าวโจมตีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ต่างๆนาๆ โดยไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
พล.อ.พัลลภ
ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาท่านไปเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวต่างๆ
ของกลุ่มพันธมิตรฯ จนพัฒนาการมาถึงขั้นวางระเบิด
ดังนั้นจึงต้องมีการดำเนินการกับท่าน แต่อย่างไรก็ตาม
เรายังไม่ได้ไปปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของใคร
ตอนนี้อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะออกมาเป็นผู้ระบุว่าอะไรเป็นอะไร" ขณะที่นายจตุพร
พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ความจริง
พล.อ.พัลลภ
สมควรลาออกเองตั้งแต่วันที่ไปให้การสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯแล้ว
ไม่ต้องรอให้ใครมาปลด
ประกอบกับเรื่องกล่าวหาคุณหญิงสุดารัตน์
พฤติกรรมเหล่านี้ของ
พล.อ.พัลลภไม่สมกับการเป็นชายชาติทหารเลย **ลูกกะโล่ซัด"หมอประเวศ"หนุนลอบสังหาร ส่วนกรณีที่นายสุริยะใส
กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เสนอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีลอบวางระเบิด
4 ฝ่าย ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ พลเรือน และผู้เชี่ยวชาญ
โดยนายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
เสนอตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากต่างประเทศนั้น
อยากถามว่ากฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาของประเทศไทยทำได้หรือ
ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ต้องมาเดือดเนื้อร้อนใจกับคดีนี้อย่างมาก
พอคดีระเบิดพรรคตัวเองกลับนิ่งเฉย
อย่าเอาความไม่ชอบนายกฯมาทำลายกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย สำหรับบทความ
ฆาตกรรมทักษิณเรื่องจริงหรือสร้างสถานการณ์ ของ นพ.ประเวศ
วะสี ราษฎรอาวุโสนั้น นายจตุพร กล่าวว่า
ส่วนตัวอึดอัดใจที่จะโต้ตอบประเด็นนี้
เพราะนพ.ประเวศถือเป็นราษฎรอาวุโส คนทั่วไปให้ความเคารพ
แต่เมื่อได้อ่านบทความชิ้นนี้
รู้สึกเหมือนกับว่าไม่ใช่ตัวท่านเขียน เหมือนอะไรไปสิงท่าน
เพราะไม่ปรากฏแนวทางวิธีการสันติวิธี ไม่มีการประนีประนอม
หรือความเป็นผู้ใหญ่อยู่เลย โดยเฉพาะตอนที่
นพ.ประเวศระบุว่าในท้ายที่สุดกระบวนการลอบสังหารนายกฯจะประสบความสำเร็จ
แสดงว่าเห็นดีเห็นงามกับการลอบสังหารนายกฯ
และยังระบุด้วยว่าประเทศจะรอดหรือไม่ อยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ
เสียสละ หรือเสียสละ พ.ต.ท.ทักษิณ
ตนมองว่าปัญหาที่ยังมีอยู่ทุกวันนี้คือหลายคนยังมีความคาดหวังที่จะเป็นนายกฯ
และรัฐมนตรี มาตรา 7 จึงทำให้สภาพบ้านเมือง
ตกอยู่ในวังวนของปัญหาอยู่ถึงทุกวันนี้ **"ชวน"ติงรัฐบาลแจงคาร์บวมต่างชาติ นายชวน
หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวว่าการที่รัฐบาลจะชี้แจงนานาประเทศเกี่ยวกับเหตุคาร์บอมบ์ทั้งที่ข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น
ก็เท่ากับเป็นการชี้แจงในสิ่งที่คนไทยยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่
ซึ่งตนเห็นว่าการจะชี้แจงอะไรต่อสังคมโบกต้องเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้
หมายความว่า เป็นข้อยุติที่คนไทยก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น
หากคนไทยไม่เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นแล้วไปชี้แจงต่างประเทศ
ก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไร
และจะกลายเป็นเรื่องแก้ตัวเพื่อลบล้างสิ่งที่ทำมา
ดังนั้นคิดว่าน่าจะมีข้อยุติก่อน "เมื่อได้ข้อยุติว่าเป็นอย่างไรแล้ว
มีการดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดแล้ว
ถึงควรจะเผยแพร่ความจริงนั้นออกไป
ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงอะไร
เพราะต่างชาติเขาก็ติดตามข่าวสารอยู่แล้ว
เดี๋ยวจะเหมือนเดิมอีก เหมือนจดหมาย
ที่ส่งถึงประธานาธิบดีบุช และความจริงก็ปิดไม่มิด
แต่ผมไม่รู้ว่าทำเพื่ออะไร
ทำเพื่อให้คนต่างชาติเชื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้นในขณะที่คนไทยก็ยังลังเลใจอยู่ว่า
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
คนไทยเองยังไม่ได้ปักใจเชื่อเสียทีเดียว
ดังนั้นน่าจะให้มีการสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน" **ย้ำสังคมรุงแรงต้นเหตุจาก"ทักษิณ" ส่วนกรณีที่
นายกรัฐมนตรีระบุว่า
ไม่อยากเชื่อว่าเหตุการณ์คาร์บอมจะเกิดในยุคนี้นั้น นายชวน
กล่าวว่า หากนายกรัฐมนตรีได้เข้าใจถึงความไม่ดีงาม
หรือความเลวร้ายในการใช้วิธีการรุนแรงมาตั้งแต่ต้น
บ้านเมืองก็จะไม่เป็นเช่นนี้ แต่เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีได้ใช้ความรุนแรงที่นอกกฎหมายหลายเรื่อง
เช่นการใช้วิธีการอุ้มฆ่าในภาคใต้
การใช้วิธีฆ่าตัดตอนโดยไม่ผ่านกระบวนการทางกฎหมาย
ไม่มีการสืบสวนสอบสวน ไม่มีการส่งฟ้องอัยการในคดียาเสพติด
ซึ่งทำให้คนบริสุทธิ์ได้รับผลกระทบมาก
แม้อาจจะมีคนผิดโดนแต่ก็ไม่ใช่ว่าถูกต้อง ดังนั้นหากยึดหลักที่เราเคยเสนอมาตั้งแต่ต้นว่าการแก้ไขปัญหาต้องยึดหลักนิติธรรม
คือใครผิดจะต้องจับกุมแล้วส่งอัยการให้ฟ้อง
แล้วศาลจะเป็นผู้ตัดสินว่า ใครควรจะลงโทษเท่าไหร่
ก็ใช้วิธีนี้มาตั้งแต่ต้น
บ้านเมืองก็จะไม่เกิดปัญหารุนแรงเช่นนี้ "หากนายกฯไม่นิยมความรุนแรง
ก็ต้องทบทวนว่า 5 ปีที่ใช้วิธีการ นอกกฎหมายนั้น
ท่านรู้หรือไม่ว่า
มันเป็นผลที่ทำให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติในวันนี้ส่วนหนึ่ง
รวมทั้งความไม่เคารพกติกา เช่นการแทรกแซงองค์กรอิสระ
หากไม่มีสิ่งเหล้านี้วิกฤติก็จะไม่เกิดขึ้น" **แนะตั้ง"ทรท.ฟิล์ม"ทำหนังแข่ง"เสี่ยเจียง" นาย
เทพไท เสนพงศ์ โฆษกสำนักเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวว่า ในการประชุมพรรคไทยรักไทย ครั้งที่ผ่านมา
สมาชิกพรรคไทยรักไทยหลายคน กล่าวสดุดีและเรียกร้องให้
พ.ต.ท.ทักษิณทำงานต่อไป โดยไม่ต้องเว้นวรรค
ด้วยน้ำตานองหน้า
จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของคนพรรคไทยรักไทยในวันนี้
เต็มไปด้วยนักแสดงสมควรอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนพรรคไทยรักไทย
จากพรรคการเมืองไปเป็นโรงละคร ตั้ง บริษัท ไทยรักไทยฟิล์ม
เพื่อจัดสร้างภาพยนตร์แข่งขันกับบริษัทสหมงคลฟิล์ม และ
จีทีเอช น่าจะเหมาะกว่า
ซึ่งที่ทำการพรรคไทยรักไทยก็ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสมอยู่แล้วข้างหลังเป็นคลองแสนแสบเต็มไปด้วยน้ำเน่า
ข้างหน้าเป็นสถานที่อาบอบนวด เต็มไปด้วยน้ำกาม
ภายในพรรคเจิ่งนองไปด้วยน้ำตา "เฉพาะอย่างยิ่ง
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย
แสดงความรู้สึกเป็นห่วงนายกฯ และพูดด้วยอาการน้ำตาคลอว่า
สิ่งที่นายกฯกระทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ
อยากให้นายกฯเดินหน้าทำงาน ประชาชนกังวลว่า
หากนายกฯไม่อยู่สักคนแล้วจะมีใครรับผิดชอบบ้านเมือง
คำกล่าวของนายวันนอร์ฯ แสดงว่านายวันนอร์ฯ
ได้ยอมรับการแก้ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นใน 3
จังหวัดภาคใต้ของรัฐบาลชุดนี้ว่าถูกต้องแล้ว
อยากเรียกร้องให้พี่น้อง 3 จังหวัดภาคใต้
ได้จดจำคำพูดของนายวันนอร์ฯไว้
เพื่อไปแสดงออกในวันที่จะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้
อยากจะถามนายวันนอร์ฯว่า บ้านเมือง 3
จังหวัดภาคใต้ลุกเป็นไฟ
เพราะน้ำมือของนายกทักษิณคนนี้มิใช่หรือ" นายเทพไท
กล่าวว่า วันนี้ ลูกพรรคไทยรักไทยประคบประหงม พ.ต.ท.ทักษิณ
เชิดชูดุจดังเทวดา ปกป้องไม่ให้เป็นอะไรไป
ในห้วงเวลานี้ทุกคนต่างเอาอกเอาใจ ด้วยรูปแบบต่าง ๆ เช่น
การให้สัมภาษณ์ด่าคู่แข่ง กล่าวสดุดีนายกฯ ลูกพรรคหลายคน
ไม่ได้ลงพื้นที่หาเสียงกันแล้ว
แต่วิ่งหาเครื่องรางของขลังมามอบให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
ไว้เพื่อป้องกันตัว จึงขอเตือนสมาชิกพรรคไทยรักไทยว่า
โลกยุคนี้เป็นโลกแห่ง วิทยาศาสตร์
อย่าเอาไสยศาสตร์มาสร้างความงมงายให้กับสังคมอีกเลย
ถ้าเป็นคนดีจริงไม่มีใครที่คิดจะทำลายได้
แต่ถ้าเป็นคนเลวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถคุ้มครองได้ **มหาชนเตือน"แม้ว"เลิกชี้นำตำรวจ นายประมวล
รุจนเสรี รองหัวหน้าพรรคประชาราช
กล่าวถึงท่าทีของพรรคประชาราชต่อคดีที่มีทหารใช้รถยนต์ลักลอบขนระเบิดลอบปองร้าย
พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ
กำลังชี้นำการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยดูได้จากการที่
พ.ต.ท.ทักษิณ
ระบุว่าเป็นการลอบสังหารและยังเปิดเผยว่ามีนายทหาร 4
คนเกี่ยวข้อง
ซึ่งการออกมาเปิดเผยของรักษาการนายกฯเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นการชี้นำที่ต้องการ
ผลทางการเมือง
พรรคประชาราชขอเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองเลิกชี้นำ
แทรกแซงการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน
รวมทั้งการปรับโผแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี
เพื่อผลักดันคนของตัวเองเข้าไปคุมในตำแหน่งสำคัญ
ซึ่งผิดประเพณีการปฏิบัติของกองทัพ
| |
|
|
|
|