|
ปชป.ชูป้ายเลียน "ทักษิณ" อัดรัฐจัดงบไม่สร้างสรรค์-แต่งตัวเลข ศก. ฝ่ายค้านรุมอัดรัฐบาลตั้งงบรายจ่าย
"ซูเปอร์ซีอีโอ" คิด-ทำคนเดียว แต่ไม่มีคนรับผิดชอบ "เกรียงศักดิ์"
ยกป้ายเลียนแบบทักษิณ ชี้เป็นงบไม่สร้างสรรค์ "อลงกรณ์" แฉประมูลอี-ออกชั่น
เอื้อบริษัทคนในรัฐบาล
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกประชุมเพื่อพิจารณาร่าง
พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2549
ที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีนายโภคิน พลกุล ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยในการพิจารณาร่าง
พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2549 ในวาระที่ 2 จะเป็นการพิจารณารายมาตรา
ซึ่งมีผู้ขอแปรญัตติ เริ่มที่มาตรา 3
ซึ่งเป็นการกำหนดงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1.36 แสนล้านบาท
โดยผู้อภิปรายส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับงบประมาณที่รัฐบาลตั้งไว้
นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
กล่าวว่า งบที่ตั้งขึ้นปี 2549 ไม่สร้างสรรค์ จัดทำงบประมาณแบบไม่ถูกกาลเทศะ
ไม่ถูกที่ถูกทาง ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริง
นอกจากนี้ยังมีการจัดงบที่ผิดที่ผิดทาง เช่น งบผู้ว่าฯ
ซีอีโอและงบเอสเอ็มแอลควรอยู่กับกระทรวงมหาดไทย แต่กลับไปอยู่ในงบกลาง
เพื่อให้หัวหน้า ครม.สะดวกใช้ โดยไม่ต้องมีรายละเอียดของโครงการ
ใช้เมื่อไรก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายของนายเกรียงศักดิ์
เรื่องการจัดงบประมาณไม่สร้างสรรค์ นายเกรียงศักดิ์
ได้นำป้ายเครื่องหมายกากบาทสีแดงขึ้นมาชูด้วย ซึ่งเหมือนกับป้ายที่
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ชูป้ายให้นักข่าวโดยระบุว่าถามคำถามไม่สร้างสรรค์ในทำเนียบรัฐบาลที่ผ่านมา
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า งบในปี
2549 หลายคนบอกว่าเป็นยุคพระศรีอารย์ คือประชาชนถูกรีดภาษีมาก นอกจากนี้
งบประมาณที่ตั้งไว้เมื่อปีที่แล้วก็ยังใช้ไม่หมด
แต่กลับตั้งงบประมาณเข้าไปใหม่
การบริหารงบประมาณเช่นนี้แย่กว่ารัฐบาลที่ผ่านมา แล้วพอมาถึงตอนนี้นายกฯ
ก็ตาลีตาเหลือกใช้งบค้างท่อ
นอกจากนี้รัฐบาลชุดนี้ยังประสบปัญหาทุจริตในวงราชการและการเมือง โดยนายกฯ
ประกาศว่าการใช้อี-ออกชั่น โปร่งใส
แต่กลับกลายเป็นเครื่องมือในการทุจริตง่ายกว่าการประกวดราคาและเห็นว่าการจัดงบครั้งนี้
เป็นการจัดงบแบบซูเปอร์ซีอีโอ คิดคนเดียว ทำคนเดียว แต่ไม่มีคนรับผิดชอบ
นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์
อภิปรายเรื่องตัวเลขจีดีพี ว่าในปี 2548 รัฐบาลพยายามตั้งไว้สูง
เพื่อพยายามแบ่งจีดีพีให้เพิ่มขึ้น จะได้ไปกดตัวเลขหนี้สาธารณะ
ทำให้คนทั่วไปมองว่าหนี้สาธารณะไม่เพิ่มขึ้น ถือเป็นตัวเลขที่ลวงตา
|
|||
| |||