9-12 ธันวาคม 2549

             
             รัฐบาลโดย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวยืนยันจะนำร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.... เสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เนื่องจากก่อนหน้านี้กฤษฎีกาได้มีคำวินิจฉัยว่าการออกฉลากพิเศษ 2 ตัว และ 3 ตัว หรือหวยบนดินทั้ง 80 งวดที่ผ่านมาเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ดังนั้นรัฐบาลปัจจุบันจึงมีแนวคิดในการแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ พ.ศ. 2517 เพื่อให้สามารถออกหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัวได้ตามปกติ ทั้งนี้รัฐบาลอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนหันไปเล่นหวยใต้ดิน ซึ่งประเด็นการรีบเร่งแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งฯ ได้สร้างข้อกังขาต่อจุดยืนของรัฐบาลในการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้

รัฐบาลสนใจการหารายได้มากกว่าลดจำนวนคนเล่นหวย?

รัฐต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนระหว่างการลดจำนวนคนเล่นหวยกับการหารายได้เข้ารัฐ หากรัฐบาลต้องการจะให้มีการออกหวยบนดินต่อไป เพื่อมิให้ประชาชนหันไปเล่นหวยใต้ดิน แสดงว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการหารายได้เข้ารัฐมากกว่าจะลดจำนวนคนเล่นหวย ท่าทีเช่นนี้จะทำให้ถูกมองได้ว่าจุดยืนของรัฐบาลนี้ไม่มีความแตกต่างจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณฯ ซึ่งอ้างเช่นเดียวกันว่า มีคนเล่นหวยใต้ดินเป็นจำนวนมาก รัฐบาลไม่สามารถปราบปรามได้และเจ้ามือหวยเถื่อนเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ จึงจำเป็นที่รัฐบาลควรเป็นเจ้ามือหวยเสียเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนไปซื้อหวยใต้ดิน และสามารถดึงเงินรายได้ที่เคยเป็นของเจ้ามือหวยเถื่อนมาเป็นรายได้ของรัฐบาล

มีข้อเสนอหลายมาตรการจากสังคมที่รัฐบาลน่าที่พิจารณาอย่างจริงจัง ยกตัวอย่างจากที่หลายฝ่ายได้เสนอมาผมคิดว่าเป็นประโยชน์มาก อาทิเช่น มาตรการลดจำนวนการออกฉลากกินแบ่งจากเดิมเดือนละ 2 ครั้งให้เหลือครั้งเดียว หรือการเปลี่ยนวันการออกฉลากฯ ไม่ให้ตรงกับวันที่เงินเดือนออกโดยอาจขยับวันออกไปใกล้วันสิ้นเดือน นอกจากนี้รัฐบาลควรมีมาตรการทางการกฎหมายที่เข้มงวด เพื่อปราบปรามเจ้ามือหวยเถื่อน เอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่รู้เห็นเป็นใจและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ฯลฯ

            รัฐบาลละเลยไม่ดำเนินคดีต่อผู้ที่ทำผิดกฎหมาย?

รัฐบาลพยายามแก้ไขกฎหมายเพื่อทำให้การออกหวยบนดินถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากสาเหตุที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าการออกหวยบนดินผิดกฎหมาย แต่กระนั้นแม้รัฐบาลจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลควรเสนอกฎหมายโดยมีการศึกษาให้ถ่องแท้ และควรขอความเห็นจากประชาชนเสียก่อนเพราะเป็นประเด็นที่สังคมมีข้อถกเถียงกันมาก แล้วจึงนำร่างกฎหมายเสนอเข้าสภาฯ ประเด็นในกฎหมายฉบับนี้ควรใช้เวลาไตร่ตรองและไม่ควรจะรีบเร่ง และการคาดหวังว่าจะเสนอแก้ไขกฎหมายทั้ง 3 วาระในครั้งเดียวได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า รัฐบาลกำลังจะใช้สภาฯ เป็นเครื่องมือในการจะออกกฎหมายอะไรก็ได้

ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
กรรมการบริหารและรองประธานคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์

-------------------------------